.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประชาคมออนไลน์เวียดนามตื่นเต้นกับภาพ และข่าวการพบปลาหายากชนิดหนึ่งถูกซัดเข้าฝั่งเกยหาดทรายใน อ.หงิเซิน (Nghi Son) จ.แค้งฮวา (Khanh Hoa) ในภาคเหนือตอนล่างของประเทศ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว แต่ภาพทั้งหมดเพิ่งจะแพร่ออกสู่โลกออนไลน์ไม่กี่วันมานี้
นี่คือ “ปลาพญานาค” หรือ “ปลาไม้พาย” (Oarfish) ที่เคยร่ำลือกันว่า ทหารสหรัฐฯ ในลาวเคยจับได้ในแม่น้ำโขงเมื่อกว่า 30 ปีก่อน โดยมีรูปภาพแพร่กระจายไปทั่วซึ่งแท้จริงในภาพดังกล่าวเป็น “ปลาพญานาค” ขนาดใหญ่ที่ถูกซัดเกยตื้นเข้าฝั่งแคลิฟอร์เนีย
แต่ที่แน่ๆ คือ ออร์ฟิช เป็นปลาที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีลำตัวยาวที่สุดในโลก และยังเป็น “อสุรกายแห่งท้องทะเล” ของนักเดินเรือสมัยโบราณ
“ออร์ฟิช” อาศัยอยู่ในทะเลลึกตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป แต่จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นบนผืนน้ำในยามที่มันเจ็บป่วย หรือขึ้นมาเพื่อรับแสงแดด และบางครั้งเป็นการแจ้งเตือนการเกิดแผ่นดินไหวใต้ผืนสมุทร นักเดินเรือกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวที่ถูกซัดขึ้นเกยหาดในภาคเหนือตอนล่างของเวียดนามลำตัวยาวเพียง 4 เมตรเท่านั้น แม้ว่าตัวโตเต็มที่จะยาว 11-17 เมตรก็ตาม และนับเป็นปลาตัวที่ 2 ที่ถูกซัดขึ้นมาเกยตื้นในจังหวัดเดียวกันนี้ โดยตัวแรกพบในเดือนเดียวกันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน สำนักข่าวเกียนถึกออนไลน์รายงาน
นักชีววิทยาทางทะเลกล่าวว่า ด้วยลำตัวยาว และเป็นสีเงินยวง ส่วนหัวกับส่วนหางมีสีแดง ครีบบนส่วนหัวจะมีสีชมพูเรื่อ และเป็นเส้นยาวเรียว จึงไม่แปลกอะไรที่นักเดินเรือจะเรียกมันว่าอสุรกายแห่งสมุทร ภาพวาดสมัยโบราณได้แสดงให้เห็นออร์ฟิชเป็นเสมือนตัวมังกรในตำนาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามันอาจจะเป็นปลาตระกูลโบราณที่ผ่านวิวัฒนาการมาหลายยุค และมีขนาดใหญ่โตมาก
ออร์ฟิช ปรากฏให้เห็นในทะเลหลายแห่งทั่วโลกที่ภูมิอากาศแตกต่างกัน รวมทั้งพบในไต้หวัน เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในสภาพที่ถูกคลื่นซัดขึ้นเกยหาดเช่นเดียวกัน
สำหรับเวียดนาม หลายปีมานี้ได้มีสัตว์ทะเลประหลาดๆ ไปปรากฏที่นั่นหลายชนิด รวมทั้งปลาแสงอาทิตย์ (Sunfish) ที่อาศัยในมหาสมุทร แต่ที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าก็คือ ในปี 2554 ที่มีสิงโตทะเลพันธุ์ขั้วโลกใต้ไปติดอวนของชาวประมงในภาคกลางของประเทศ ซึงยังไม่มีผู้ใดอธิบายได้ว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ย้อนหลังไปเมื่อปี 2553 ชาวประมงในแถบ จ.บี่งดิง (Binh Dinh) ล่าปลาฉลามน้ำหนักกว่า 1 ตันได้ตัวหนึ่ง ในเขตอ่าวกวีเญิน (Qui Nhon) เมืองหาดทรายท่องเที่ยวชายทะเลที่โดยปกติจะคลาคล่ำด้วยผู้คนลงว่ายน้ำกัน หลังจากนั้นยังจับได้อีกหลายตัวน้ำหนักตั้งแต่ 200 กิโลกรัมเศษ จนถึงกว่าครึ่งตัน
ยังไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้เช่นกันว่า เพราะเหตุใดๆ ฉลามจึงแวะเวียนเข้าไปที่นั่น แต่ที่แน่ๆ คือ ทุกวันนี้อ่าวท่องเที่ยวได้กลายเป็นอ่าวร้าง เหลือเพียงเรือหาปลา กับชาวประมงเท่านั้น.
.
2
.
/
.
อสุรกายแห่งท้องทะเล Wikimedia
3
4
5
6