.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – ปัจจุบันในเมืองหลวงของลาว มีประชาชนที่ยากจนเหลืออยู่เพียง 86 ครอบครัวเท่านั้น อันเป็นผลงานในความพยายามกำจัดความทุกข์ยากกับการลงทุนพัฒนาเขตชนบทของรัฐ มีการเปิดเผยตัวเลขสถิติต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่างการประชุมสภาแห่งชาติวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายวิไซ ซาวันนา หัวหน้าแผนกแผนการและการลงทุนของเมืองหลวงเป็นผู้รายงานเรื่องนี้ โดยระบุว่า คนยากจนที่เหลืออยู่คิดเป็นเพียง 0.04% ของชาวเมืองหลวงทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมด 201,209 ครัวเรือน
ทางการได้แก้ไขปัญหาด้วยการจัดสรรที่ทำกินสำหรับราษฎรยากจน ลงทุนเพื่อสร้างงาน และแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด จัดภูมิลำเนาให้มีที่อยู่อาศัย และแก้ไขปัญหาไม่มีงานทำในเขตชนบท สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงาน
ในย่านใจกลางเมืองหลวงมีครอบครัวยากจนเหลืออยู่น้อยที่สุดคือ เขตเมืองจันทะบูลีเหลืออยู่เพียง 6 ครอบครัว เมืองไซเสดถา 7 ครอบครัว และเมืองไซทานีซึ่งครอบคลุมถึงย่านรอบนอกและชานเมืองเหลืออยู่ 37 ครอบครัว
ไกลออกไปในเขตเมืองปากงึมมี 12 ครอบครัว กับเมืองสังทองซึ่งเป็นท้องถิ่นห่างไกลที่สุดจากใจกลางนครหลวงมีอยู่ 24 ครอบครัว ขปล.กล่าว
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวของทางการไม่ได้กล่าวถึงเกณฑ์ที่ใช้ชี้วัดขีดความยากจนของลาว รวมทั้งไม่ได้กล่าวถึงตัวเลขรายได้ต่อหัวประชากรต่อปีที่เป็นปัจจุบันของชาวเมืองหลวง
ตามรายงานการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประจำปี 2551 ที่เผยแพร่ในต้นปีถัดมา รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวนครเวียงจันทน์ราว 5 แสนคน เพิ่มขึ้นเป็น 1,613 ดอลลาร์ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 24.13% เทียบกับ 1,300 ดอลลาร์เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านั้น
มติของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวที่ออกระหว่างการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 9 เดือน มี.ค.2554 ได้ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 8% ต่อปีตลอดเวลา 5 ปีข้างหน้า และรายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวลาวทั้งประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,700 ดอลลาร์ในปี 2558
ในปีเดียวกันนั้นทั่วทั้งประเทศจะต้องมีครอบครัวยากจนเหลืออยู่ไม่เกิน 10% ของทั้งหมด.