นายอนันต์ ทองไถ้ผา ผู้อำนวยการฝ่ายกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง กล่าวถึงบทบาทของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองที่มีหน้าที่พิจารณาการให้เงินสนับสนุนการดำเนินงานของพรรคการเมือง ว่า จะดูจากแผนงานการใช้จ่ายเงินที่พรรคการเมืองเสนอมา โดยกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 5 แผนงาน เช่น แผนงานด้านค่าตอบแทนและพัฒนาบุคลากร ค่าใช้จ่ายการบริหารพรรคและสาขาพรรค โดยเกณฑ์ของพรรคการเมืองที่จะได้รับการสนับสนุน คือต้องเป็นพรรคที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วไปครั้งหลังสุด และมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ในแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตตามที่กฎหมายกำหนด มีสาขาไม่น้อยกว่า 4 สาขา และมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 5,000 คน ซึ่งแต่ละพรรคจะได้รับการสนับสนุนต่างกันจากเกณฑ์ด้านคะแนนเสียงทั้ง 2 แบบ จำนวนสาขาพรรค และจำนวนสมาชิกที่ชำระค่าบำรุงรายปี
ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุน 2 กลุ่ม คือพรรคที่ได้รับคะแนนเกินกว่าร้อยละ 0.5 จำนวน 8 พรรค ใช้วงเงินสนับสนุนรวม 120 ล้านบาท และกลุ่มที่มีคะแนนน้อยกว่าร้อยละ 0.5 จำนวน 26 พรรค ใช้วงเงินรวม 20.8 ล้านบาท
ส่วนการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองต้องส่งรายงานการใช้จ่าย จัดทำบัญชีงบดุลที่ต้องผ่านการรับรองของที่ประชุมใหญ่พรรค ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายในเดือนมีนาคม หากนายทะเบียนฯ ตรวจสอบว่ามีความถูกต้องจะเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ แต่หากพบว่าไม่ถูกต้อง นายทะเบียนพรรคการเมืองมีสิทธิ์เรียกเงินคืน และถ้าไม่ปฏิบัติตาม นายทะเบียนพรรคการเมืองอาจฟ้องเป็นคดีแพ่ง หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งโทษมีถึงการยุบพรรคและตัดสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุน 2 กลุ่ม คือพรรคที่ได้รับคะแนนเกินกว่าร้อยละ 0.5 จำนวน 8 พรรค ใช้วงเงินสนับสนุนรวม 120 ล้านบาท และกลุ่มที่มีคะแนนน้อยกว่าร้อยละ 0.5 จำนวน 26 พรรค ใช้วงเงินรวม 20.8 ล้านบาท
ส่วนการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองต้องส่งรายงานการใช้จ่าย จัดทำบัญชีงบดุลที่ต้องผ่านการรับรองของที่ประชุมใหญ่พรรค ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายในเดือนมีนาคม หากนายทะเบียนฯ ตรวจสอบว่ามีความถูกต้องจะเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ แต่หากพบว่าไม่ถูกต้อง นายทะเบียนพรรคการเมืองมีสิทธิ์เรียกเงินคืน และถ้าไม่ปฏิบัติตาม นายทะเบียนพรรคการเมืองอาจฟ้องเป็นคดีแพ่ง หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งโทษมีถึงการยุบพรรคและตัดสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค