หน.ปชป.ปัดข่าว “เฉลิมชัย” ไขก๊อกเลขาฯ พรรค เผยยังคุยปกติดี ด้านเจ้าตัวเตรียมแจงพรุ่งนี้ ชี้กลุ่มปล่อยข่าวหวังสร้างประเด็นขัดแย้งในพรรค หวังโยงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แทงกั๊กวันนี้ยังทำหน้าที่ พบลูกพรรคเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งเอือมไม่ขยัน แนะปลายเดือนจับตาประชุมใหญ่พรรค เมิน “พิชัย” ร้อง “มาร์ค” ลาออก แค่แข่งกันการเมืองปกติ ส่วนฝ่ายหนุนตบปากคนปูดข่าว ต้องการกวนน้ำให้ขุ่น เชื่อไม่มีลาออกแน่
วันนี้ (28 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะลาออกจากตำแหน่ง หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าว และที่บอกว่า ตนและนายเฉลิมชัยมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ไปด้วยกันไม่ค่อยได้นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันตนและนายเฉลิมชัยก็คุยกันปกติดี
ด้าน นายเฉลิมชัย ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) ตนเข้าพรรคและพร้อมตอบคำถามต่างๆ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมจึงมีข่าวนี้ออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายอีกแค่ 3 วันก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โดยหยิบยกเอาความขัดแย้งในการเสนอตัวผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรค ที่มีความเห็นต่างกันซึ่งเรื่องนี้จบลงแล้ว แต่กลับยกขึ้นมาขยายปมเพื่อแสดงให้สังคมให้สาธารณะเห็นว่าภายในพรรคมีความแตกแยกขัดแย้งรุนแรง จึงชัดเจนว่าเป็นการพยายามสร้างประเด็นเพื่อโยงให้เป็นประเด็นการเมืองภายในให้กระทบต่อฐานเสียงหรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่จะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่พรรคมีมติส่งลงสมัคร ซึ่งตนยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ชนะแน่นอน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.แน่นอน และขอให้คน กทม.ช่วยกันรักษาบ้านของตัวเองด้วยการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากๆ อย่าเชื่อข่าวหรือกระแสต่างๆ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าไม่ลงรอยขัดแย้งกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เลือกตนมาเป็นเลขาฯ แล้วตนจะขัดแย้งทำไม ส่วนการทำงานตนเคยบอกแล้วว่ายึดหลักการกระจายอำนาจ ไม่ใช่การรวมศูนย์อำนาจจึงได้กระจายหน้าที่ให้รองเลขาฯ และฝ่ายต่างๆ และการทำงานขับเคลื่อนพรรคก็ไม่จำเป็นต้องออกสื่อเพื่อสร้างภาพแต่ละคนมีสไตล์การทำงานของตัวเอง หากอยากทราบว่าตนทำงานจริงหรือไม่ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่เป็นเลขาฯพรรคให้ไปถามนายอภิสิทธิ์ดูว่า ตนทำงานหรือไม่ ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะลาออกหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ นั้น ยังไม่ขอผูดมัด แต่ยืนยันว่าวันนี้ตนยังทำหน้าที่เป็นเลขาฯ พรรค และทำงานเต็มความสามารถที่มีอยู่ เหมือนการทำงานที่บางคนใช้ปากทำงานแต่บางคนลงมือทำดังนั้นการกระทำสำคัญกว่าคำพูด
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมีกระแสข่าวเรื่องนี้ ส.ส.ในพรรคบางคนได้วิเคราะห์ว่า อาจจะมีความเป็นได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หรือ ทันทีที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่าแรงกระเพื่อมภายในพรรคประชาธิปัตย์มีมาโดยตลอด เพียงแต่มากน้อยตามจังหวะ นับตั้งแต่พรรคมีการเปลี่ยนภายในแบบยกแผง โดยอำนาจการบริหารภายในพรรคที่เคยเป็นของนาสุเทพ เทือกสุบรรณ มานับสิบปี ต้องถูกยึดครองไปโดยกลุ่มของนายเฉลิมชัย มีความเคลื่อนไหวเล็กๆอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่ม ส.ส.ที่สนับสนุนนายสุเทพ ในลักษณะการวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของนายเฉลิมชัยที่ดูจะไม่ค่อยมีผลงาน หรือไม่มียุทธศาสตร์การเมืองในเชิงรุก ซึ่งต่างจากการทำงานของนายสุเทพ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคน และ ส.ส.ต่างรู้สึกอึดอัดและอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
“ที่ผ่านมาเราให้โอกาสนายเฉลิมชัยทำหน้าที่เลขาธิการพรรคมาปีกว่า แต่ก็ไม่เห็นจะมีผลงานอะไรโดดเด่น ให้ปรากฏ หลายกิจกรรมของพรรคก็ไม่เคยมาร่วม หรือถ้ามาก็น้อยครั้งมาก ทำให้ ส.ส.หลายคนอึดอัดและเสียดายโอกาสที่พรรคน่าจะขับเคลื่อนไปได้มากกว่านี้ หายคนมีความรู้สึกว่าพรรคอยู่ในภาวะอ่อนแอภายใน ขณะที่ต้องต่อสู้กับการเมืองรุมเร้าจากข้างนอกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสิ่งที่ควรทำนตอนนี้คือ ต้องปรับกระบวนภายในให้เข็มแข็ง และเอาคนที่มีศักยภาพที่แท้จริงมานำทางใพรรคก้าวเดินต่อไป ดังนั้นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่จะมีขึ้นในปลายเดือนมีนาคมนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็เป็นได้” แหล่งข่าวระบุ
ส่วนกรณีที่มี นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค พ่ายแพ้การเลือกตั้งนั้น แหล่งข่าวเห็นว่า ไม่จำเป็นที่นายอภิสิทธิ์จะต้องรับผิดชอบอะไร เพราะถือเป็นการแข่งขันทางการเมืองตามปกติ ที่ผ่านมาถือว่านายอภิสิทธิ์ได้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ อย่างทุ่มเทที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตามขณะที่ ส.ส.ในกลุ่มสนับสนุนนายเฉลิมชัย ต่างวิเคราะห์ว่า ข่าวที่ออกมาจากผู้ไม่หวังดี และต้องการกวนน้ำให้ขุ่น เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งหากรักพรรคจริงไม่ควรจะเคลื่อนไหวอะไรในในเวลานี้ เพราะเราอยู่ในช่วงที่กำลังแข่งขันชิงผู้ว่าฯ กทม.ที่จะได้ข้อสรุปในไม่กี่วันนี้ การปล่อยข่าวเช่นนี้ไม่ถือเป็นเรื่องฉลาด และไม่เป็นผลดีอย่างยิ่ง และเชื่อว่านายเฉลิมชัยจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคแต่อย่างใด เพราะเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดในเวลานี้แล้ว ส่วนที่กล่าวหาว่าไร้ผลงานนั้น ยืนยนได้ว่าที่ผ่านมานายเฉลิมชัยทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ามีจุดอ่อนอยู่ที่ไม่ชอบให้ตัวเองเป็นข่าวตามหน้าสื่อ แต่เชื่อว่าคนในพรรคจะมองเห็นว่าใครกันแน่ที่ทำงานให้กับพรรค