ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “อีสานโพล” เผยผลสำรวจเรื่องการรับรู้และเข้าใจของคนอีสานในธุรกิจพลังงาน ผลกลุ่มตัวอย่างชาวอีสานโดยทั่วไป พึงพอใจบทบาทกระทรวงพลังงาน แต่กว่าครึ่งไม่พอใจบทบาท ปตท. เพราะเชื่อว่าเป็นต้นเหตุน้ำมันแพง และเห็นว่าสัดส่วนรายได้ที่รัฐได้จากธุรกิจปิโตรเลียมอาจน้อยไป
วันนี้ (30 เม.ย.) ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยถึงการสำรวจเรื่อง “การรับรู้และเข้าใจของคนอีสานในธุรกิจพลังงาน” ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน จากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ผลการสำรวจโดยรวม พบว่า คนอีสานพึงพอใจในบทบาทที่ผ่านมาของกระทรวงพลังงานร้อยละ 58.4 และไม่พึงพอใจร้อยละ 41.6 โดยคนเขตเมืองพอใจร้อยละ 61.8 ไม่พอใจร้อยละ 38.2 ขณะที่คนเขตชนบทพอใจร้อยละ 56.6 โดยคนเขตเมืองและคนเขตชนบทไม่พอใจร้อยละ 43.4
นอกจากนี้ คนอีสานโดยรวมมีความพึงพอใจในบทบาทที่ผ่านมาของ ปตท.ร้อยละ 51.1 และไม่พึงพอใร้อยละ 48.9 โดยคนเขตเมืองพอใจร้อยละ 54.4 ไม่พอใจร้อยละ 45.6 ขณะที่คนเขตชนบทพอใจร้อยละ 49.4 โดยคนเขตเมืองและคนเขตชนไม่บทพอใจร้อยละ 50.6
เมื่อถามความคิดเห็นของคนอีสานถึงสัดส่วนที่รัฐได้จากธุรกิจขุดเจาะปิโตรเลียม คือ 34% (ค่าเฉลี่ยระหว่าง ปี 2524-2554) เช่น ขุดน้ำมันขึ้นมา 100 ลิตร รัฐได้ 34 ลิตร เอกชนได้ 66 ลิตร ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ พบว่าคนอีสานส่วนใหญ่คิดว่าสัดส่วนที่ได้น้อยไปร้อยละ 35.0 รองลงมาคือไม่แน่ใจคิดร้อยละ 25.9 คิดว่าเหมาะสมแล้วร้อยละ 21.5 และเห็นว่ามากไปร้อยละ 17.6
ทั้งนี้ หากจะแบ่งตามเขต พบว่า คนอีสานที่อยู่ในเขตในเมืองส่วนใหญ่คิดว่าสัดส่วนที่รัฐได้รับน้อยไปร้อยละ 32.8 รองลงมาคิดว่าเหมาะสมแล้วร้อยละ 25.7 ไม่แน่ใจร้อยละ 21.7 และคิดว่ามากไปร้อยละ 19.8 ส่วนคนอีสานที่อยู่นอกเขตเมือง พบว่าส่วนใหญ่ยังคงคิดว่าได้สัดส่วนน้อยร้อยละ 36.2 รองลงมาไม่แน่ใจร้อยละ 28.3 เหมาะสมแล้วร้อยละ 19.2 และคิดว่ามากไปร้อยละ 16.4
อย่างไรก็ตาม คนอีสานส่วนใหญ่คิดว่าน้ำมันแพงเพราะ ปตท.ถึงร้อยละ 31.5 รเพราะราคาตลาดโลกร้อยละ 20.2 ไม่แน่ใจร้อยละ 19.4 เห็นว่าเป็นเพราะภาษีที่เก็บร้อยละ 17.8 และคิดว่าเกิดจากกระทรวงพลังงานร้อยละ 11.1
ดร.สุทินกล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าคนอีสานโดยทั่วไป พอใจบทบาทของกระทรวงพลังงานในระดับหนึ่ง แต่กว่าครึ่งไม่พอใจบทบาทของ ปตท. ทั้งนี้เป็นเพราะว่าประชาชนเชื่อว่ สาเหตุหนึ่งที่น้ำมันแพงเป็นเพราะ ปตท.ผูกขาดธุรกิจน้ำมัน ซึ่งประเด็นนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในแวดวงต่างๆ ว่ามีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด
โดยแท้จริงแล้วเหตุผลสำคัญที่น้ำมันแพง คือ ราคาตลาดโลกที่สูง และเนื้อภาษี รวมถึงเงินกองทุนที่จัดเก็บ ตัวอย่างเช่น น้ำมัน E20ราคาขายปลีกลิตรละ 32-33 บาท ราคาตลาดโลกประมาณลิตรละ 22 บาท ภาษีและเงินกองทุนรวมกันลิตรละ 8-9 บาท แต่การเก็บภาษีน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรัฐ ในการควบคุมให้เกิดการใช้น้ำมันอย่างรู้คุณค่า และนำภาษีไปใช้พัฒนาประเทศในด้านต่างๆ
อย่างไรก็ตาม รัฐอาจต้องมีการศึกษาวิจัย และปรับปรุง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เพื่อให้ได้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจขุดเจาะปิโตรเลียมเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศมากที่สุด ดังที่คนอีสานกว่า 35% เห็นว่าสัดส่วนรายได้โดยเฉลี่ย 34% ยังน้อยเกินไปหากเทียบกับประเทศอื่น
นอกจากนี้ การตั้งราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นที่ไทยยังบวกค่าขนส่งและค่าโสหุ้ยต่างๆ ประมาณลิตรละ 60-80 สตางค์ เพื่อให้แข่งขันได้กับราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ กรณีนี้กระทรวงพลังงานก็น่าจะศึกษาและวิจัย เพื่อหาคำตอบว่าการบวกค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังเหมาะสมอยู่หรือไม่ หรือลดลงมาได้หรือไม่