ซินหัว - สมาคมผู้ผลิตสิ่งทอกัมพูชา (GMAC) มีมติเห็นชอบที่จะปรับเพิ่มค่าแรงของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ และรองเท้าของประเทศ หลังการประชุมวานนี้ (21) ที่มีรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสังคม รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ประธาน GMAC และตัวแทนจากสหภาพแรงงานต่างๆ ในกัมพูชาเข้าร่วมหารือกัน
รายงานระบุว่า การประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการที่จะหารือปรับเพิ่มค่าแรงให้แก่แรงงาน และสหภาพแรงงานทุกแห่งควรประชุมกันเพื่อตั้งข้อเสนอที่เป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงาน เพื่อนำไปเจรจาต่อรองกับบรรดานายจ้าง โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) จะเป็นผู้ประสานงานในส่วนนี้
ตามข่าวแถลงระบุว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 26 ก.พ. เพื่อตัดสินใจการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
การเจรจาการปรับเพิ่มค่าแรงมีขึ้นหลังสหภาพแรงงานเรียกร้องให้รัฐบาลกระตุ้นบรรดาผู้ผลิตปรับเพิ่มค่าแรงให้แก่แรงงานตั้งแต่ปี 2556
“ปัจจุบัน ค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงานอยู่ที่ 61 ดอลลาร์ นับว่าเป็นอัตราค่าแรงที่ต่ำเมื่อเทียบกับราคาอาหาร และน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกระทบสภาพความเป็นอยู่ของแรงงาน” นายเจีย มุนี ประธานสหภาพแรงงานเสรี ที่เป็นสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชากล่าว
“เพื่อช่วยเหลือผ่อนคลายความยากลำบากของแรงงาน ผมประสงค์ที่จะร้องขอต่อประธาน GMAC ให้หารือ และปรับเพิ่มค่าแรงขึ้นต่ำให้แก่แรงงานเป็น 120 ดอลลาร์ต่อเดือน”นายเจียมุนีกล่าว
อุตสากรรมสิ่งทอนับเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ประเทศที่ใหญ่ที่สุด มีโรงงานอยู่ในภาคส่วนนี้มากกว่า 3,000 แห่ง มีการจ้างงานประมาณ 335,400 ตำแหน่ง โดยร้อยละ 91 ของแรงงานเป็นเพศหญิง
รายงานของกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาระบุว่า เสื้อผ้า และสินค้าที่เกี่ยวกับสิ่งทอที่ส่งออกไปยังต่างประเทศทำรายได้ให้แก่ประเทศ 4,600 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน ขยายตัวขึ้นร้อยละ 8 เทียบปีต่อปี โดยมีสหรัฐฯ และประเทศในยุโรปเป็นตลาดผู้ซื้อหลัก รองลงมาคือ แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน.