ปธน.หญิงอาร์เจนตินาสวมหมวกเวียดกง ลงมุดอุโมงค์กู๋จี

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีหญิงของอาร์เจนตินา นางคริสตินา เฟอร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ (Cristina Fernandez de Kirchner) ทำเซอร์ไพรส์ประเทศเจ้าภาพ ระหว่างไปเยี่ยมชมอุโมงค์กู๋จีในวันเสาร์ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสวมหมวกปีกสีเขียว และคาดผ้าพันคอลายสกอต แบบเดียวกับที่ทหารแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ หรือกองโจรเวียดกงใช้ในช่วงสงครามเวียดนาม

นางเคิร์ชเนอร์ไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ดังกล่าว ขณะเยือนนครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-21 ม.ค.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการลงทุนโดยตรงของนักธุรกิจจากอาร์เจนตินาในนครใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

ผู้นำอาร์เจนตินาให้สัมภาษณ์คณะสื่อมวชนที่ติดตามไปเยี่ยมอุโมงค์ว่า สิ่งที่นางได้เห็นไม่ใช่อย่างอื่น หากเป็นความรักชาติกับการเสียสละของชาวเวียดนาม และสนใจไปเยี่ยมชมที่นั่นเพื่อจะรู้จักสถานที่กับเรียนรู้การใช้ชีวิตของผู้คนในนั้นในช่วงครามอันยาวนาน

ก่อนหน้านั้น ในนครโฮจิมินห์ นางเคิร์ชเนอร์ได้รับการต้อนรับจากนายเลหว่างกวน (Le Hoang Quan) ประธานคณะกรรมการประชาชน ซึ่งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับโอกาสในความร่วมมือหลายด้าน รวมทั้งไบโอเทคโนโลยี พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ด้านสาธารณสุข การเกษตรกับการท่องเที่ยว สำนักข่าวซเวินจี๊รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

อาร์เจนตินาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สนับสนุนเวียดนามในช่วงสงครามกับสหรัฐฯ และประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้กล่าวขอบคุณนางเคิร์ชเนอร์สำหรับสิ่งนี้ และการเยือนแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญ ก็เป็นส่วนหนึ่งในความสนใจเป็นการส่วนตัวของผู้นำสตรีจากอาร์เจนตินา

กู๋จี (Cu Chi) เป็นระบบอุโมงค์ใต้ดินอันสลับซับซ้อน และใหญ่โต มีความยาวรวมกันกว่า 120 กิโลเมตร ฝ่ายกองโจรเวียดกงทำขึ้นมาใช้เป็นแหล่งหลบซ่อน ซ่องสุมอาวุธ มีห้องนอน โรงพยาบาล ห้องประชุม และศูนย์บัญชาการ เพื่อต่อสู้กับทหารรัฐบาลเวียดนามใต้เมื่อก่อน กับทหารสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ 1960

ฝ่ายสหรัฐฯ ได้พยายามค้นหาอุโมงค์เป็นเวลาหลายปี แต่ไม่พบ จนกระทั่งกองกำลังทหารออสเตรเลียในสงครามเวียดนามค้นพบบางส่วนในปี 1965 และเข้าศึกษารายละเอียดนำออกเผยแพร่ให้โลกภายนอกได้รู้เป็นครั้งแรก แต่ฝ่ายเวียดกงก็ยังคงใช้อุโมงค์กู๋จีต่อมา รวมทั้งใช้เป็นศูนย์บัญชาการในสงคราม การรุกรบใหญ่เทศกาลตรุษปี 1968 ด้วย

ในปี 1969 สหรัฐฯ ได้ใช้เครื่องบิน บี-52 ทิ้งระเบิดเขต อ.กู๋จี แบบปูพรม ทำให้ได้รับความเสียหายหนัก แต่ถึงกระนั้น หลายส่วนของระบบอุโมงค์ลับก็ยังใช้การได้ต่อไปจนกระทั่งสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากสงครามเวียดนามในปี 1972 และฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดกรุงไซ่ง่อนเก่าได้สำเร็จ ในเดือน เม.ย.1975

อุโมงค์อยู่ในเขตป่าทึบในท้องที่ อ.กู๋จี ห่างจากตัวเมืองใหญ่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 20 กม.เศษ ปัจจุบัน ได้รับการฟื้นฟู และอนุรักษ์ให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งในภาคใต้เวียดนาม.

เดินทางย้อนอดีต 50 ปี Reuters/Dan Tri Online

2

3

4

5

6

7

8