xs
xsm
sm
md
lg

ภาพชุด - สัปดาห์นี้เมื่อ 40 ปีก่อน กรุงฮานอยคลุ้งควันระเบิดบี-52

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR ><FONT color=#000033>ช่วงวันที่ 18-29 ธ.ค.2515 ยกเว้นวันคริสต์มาส (25) เพียงวันเดียว สหรัฐฯ ส่งบี-52 จากเกาะกวมและฐานทัพอู่จะเภาในประเทศไทยไปทิ้งระเบิดเมืองหลวงของเวียดนามกับเมืองท่าหายฝ่องกว่า 200 เที่ยว เพื่อตัดกำลังในแนวหลังกับแหล่งสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ ทำลายศูนย์บัญชาการสงคราม หวังกดดันเวียดนามเหนือให้ยอมศิโรราบ การทิ้งระเบิดทำให้บ้านเมืองเสียหายหนัก ชาวฮานอยเสียชีวิตหลายพันคนรวมทั้งแพทย์กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตเกือบทั้งหมดพร้อมคนไข้ และ .. ท่ามกลางการต่อสู้ป้องกันอย่างแน่นเหนียว เครื่องบินบี-52 ถูกยิงตกไปทั้งหมด 34 ลำ ตลอดเวลา 12 วัน 12 คืนใน ในยุทธเวหาฮานอย-เดียนเบียนฟู. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในสัปดาห์นี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เมืองหลวงของเวียดนามกำลังถูกสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดอย่างหนักด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่าของเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์บี-52 ที่เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพอากาศที่ใหญ่โตเข้มแข็ง และทันสมัยที่สุดในโลก

ถึงแม้จะได้รับการต่อต้านจากชาวฮานอยอย่างเหนียวแน่นก็ตาม แต่เมืองหลวงก็ได้รับความเสียหายหนัก มีประชาชนเสียชีวิตหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สตรี และเด็กๆ ในขณะที่ประชากรชายเกือบทั้งหมดไปทำหน้าที่ป้องกันชาติ

ตลอดเวลา 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 18-29 ธ.ค.2515 สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปถล่มกรุงฮานอยราว 200 เที่ยว หากยกเว้นวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) ไป 1 วัน ก็จะเป็นการทิ้งระเบิด 11 วัน 11 คืน เฉลีั่ยวันละ 18.18 เที่ยว รวมเป็นระเบิดหลายหมื่นตัน

สหรัฐฯ แถลงว่า เป้าหมายของบี-52 ในกรุงฮานอยคือ ที่ตั้งทางทหาร กับโรงงานอุตสาหกรรม แต่ภาพที่ฟ้องสายตาชาวโลกก็คือ บ้านเรือนราษฎรจำนวนมากเสียหายหนักที่สุด หลายสิบครอบครัวเสียชีวิตแบบยกครัว โรงพยาบาลบั๊กมาย (Bac Mai) ที่มีอายุกว่า 100 ปี โดนระเบิดพังทลายราบ แพทย์ และพยาบาลกับคนไข้อีกจำนวนมากเสียชีวิตเกือบทั้งหมด

นักบินบี-52 คนหนึ่งได้เขียนบันทึกความทรงจำในเวลาต่อมา เขาแสดงความเสียใจต่อชาวเวียดนาม และกล่าวประณามนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน รวมทั้งประณามหน่วยเหนือที่หลอกลวงพวกเขาว่า โรงพยาบาลบั๊กมายเป็นโรงงานผลิตอาวุธ ...

ภาพชุดต่อไปนี้รวบรวมจากแหล่งต่างๆ ในโอกาสที่เวียดนามกำลังเฉลิมฉลองครบรอบปีสำคัญเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ยุทธเวหาฮานอย-เดียนเบียนฟู” ซึ่งฝ่ายเวียดนามสามารถยิง “ป้อมบินยักษ์” บี-52 ตกทั้งหมด 34 ลำ อันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่พลิกผันอนาคตของ “สงครามสหรัฐฯ” ตามที่ฝ่ายเวียดนามเรียกขาน:

ฮานอยกลางควันระเบิด เดิ๊ตเหวียด/กวนโด่ยเญินซเวิน
 <bR><FONT color=#000033>ภาพที่ไม่ปรากฏคนถ่าย ในท้องฟ้ากรุงฮานอย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2515 หรือ 4 วันหลังจากประธาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เซ็นอนุมัติแผนการโจมตีเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ. </b>
2
 <bR><FONT color=#000033>ภาพถ่ายทางอากาศของฝ่ายสหรัฐฯ แสดงผลงานของ บี-52. </b>
3
<bR><FONT color=#000033>ริมถนนเกือบทุกสายในฮานอยกลายเป็นหลุมหลบภัยของชาวเมือง รัฐบาลเตรียมตัวรับการทิ้งระเบิดของบี-52 เป็นเวลาหลายเดือน. </b>
4
<bR><FONT color=#000033>หอบลูกจูงหลาน มีชาวฮานอยกว่า 55,000 คนอพยพออกไปยังแหล่งหลบภัยต่างๆ นอกเมืองหลวง. </b>
5
 <bR><FONT color=#000033>ระเบิดห่าใหญ่จากบี-52 ลงที่ถนนกิมเทียน (Kim Thien) เหตุการณ์เดียวเดี่ยวๆ นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 750 คน. </b>
6
<bR><FONT color=#000033>โรงพยาบาลบั๊กมายอยู่มากว่า 100 ปี โดนระเบิดทำลายราบ แพทย์-พยาบาลกับคนไข้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐถูกประณามจากทั่วโลก. </b>
7
<bR><FONT color=#000033>อนุสรณ์รำลึกถึงผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบั๊กมาย ที่ได้รับการฟื้นฟูบูรณะขึ้นใหม่.</b>
8
<bR><FONT color=#000033>หลายย่านของเมืองหลวงพังทลายราบ สหรัฐฯ บอกกับชาวโลกว่าเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาวุธ.</b>
9
 <bR><FONT color=#000033>บ้านเรือนของราษฎรหลายหลังในกรุงฮานอยที่เสียชีวิตกันทั้งครอบครัว ยังมีแผ่นป้ายจารึกเป็นอนุสรณ์ให้ชนรุ่นหลังได้ดู.</b>
10
<bR><FONT color=#000033>เด็กๆ ทารก และสตรีอพยพออกไปยังแหล่งหลบภัยนอกเมืองมานานก่อนที่สหรัฐจะเริ่มทิ้งระเบิด.</b>
11
<bR><FONT color=#000033>เบื้องล่างเตรียมรับมือกันคึกคัก จรวดต่อสู้อากาศยาน S-75 Dvina หรือ SAM-2 เป็นหมัดเด็ดที่สหรัฐไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ. </b>
12
<bR><FONT color=#000033>เสียงระเบิดกับเสียงคำรามของ SAM-2 .. ประกายไฟระเบิดจากเครื่องบิน กับแสงแปลบปลาบจากจรวดต่อสู้อากาศยานเป็นสิ่งที่ได้ยินและได้เห็นคู่กันตลอดเวลา.</b>
13
<bR><FONT color=#000033>ลุงโฮ สั่งจัดเตรียมรับมือการทิ้งระเบิดกรุงฮานอยมาหลายปีก่อนหน้านั้น แต่ไม่ได้อยู่ดูเหตุการณ์ ประธานโฮจิมินห์ถึงแก่กรรมในวันที่ 2 ก.ย.2512 หรือ 3 ปีก่อน ยุทธเวหาฮานอย-เดียนเบียนฟู. </b>
14
<bR><FONT color=#000033>หนึ่งในบรรดานักบินบี-52 คนแรกๆ ที่เครื่องบินของเขาถูกยิงตกในกรุงฮานอยและถูกจับ ในช่วง 12 วัน 12 คืน มีนักบินบี-52 กับนักบินเครื่องบินรบชนิดอื่นๆ นับร้อยคนเสียชีวิตและถูกจับ.</b>
15
<bR><FONT color=#000033>นักบินบี-52 ที่ถูกยิงตกคนหนึ่ง หล่นลงในบึงจึ๊กบั๊ก (Truc Bac) ทางตอนเหนือกรุงฮานอย ชาวบ้านต้องลงไปช่วยลากขึ้นมาก่อนจมน้ำ หลายคนจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ จนต้องห้ามปรามกัน.</b>
16
<bR><FONT color=#000033>ชิ้นส่วนบี-52 ลำหนึ่งหล่นลงบึงน้ำเล็กๆ ในเขต อ.บาดี่ง (Ba Dinh) ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองเก่าและอยู่ที่นี่มานาน 40 ปี ชิ้นส่วนอื่นๆ หล่นกระจายไปทั่วเมืองหลังโดนจรวด SAM-2 และถูกเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ไป.</b>
17
<bR><FONT color=#000033>นักบินเชลยถูกคุมขังในเรือนจำกลางของเมืองหลวง พวกเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี.. ดีกว่าชาวฮานอยที่กำลังอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด จากการทิ้งระเบิดทำลายของพวกเขา. </b>
18
<bR><FONT color=#000033>วันที่ 27 ธ.ค.2516 นางเหวียนถิบี่ง (Nguyen Thi Binh) รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลแห่งเวียดนามใต้ ลงนามในสัญญาสันติภาพกับรัฐบาลที่สหรัฐหนุนหลัง ในกรุงปารีส เพื่อยุติการยุ่งเกี่ยวโดยตรงของสหรัฐฯ ในเวียดนาม ทำให้สงครามเริ่มพลิกผันและนับถอยหลัง แต่วุฒิสภาสหรัฐไม่ยอมให้สัตยาบรรณสนธิสัญญาฉบับนี้ สงครามดำเนินต่อมาอีก 2 ปีเศษ.</b>
19
<bR><FONT color=#000033>สนธิสัญญาสันติภาพกรุงปารีส นำมาสู่การส่งมอบเชลยศึกคืนให้แก่สหรัฐฯ แต่สงครามในเวียดนามยังดำเนินต่อมาอีก 2 ปีเศษ.</b>
20
กำลังโหลดความคิดเห็น