พอร์ทแลนด์เพรสเฮรัลด์/เอ็นบีซี - หญิงชราชาวสหรัฐฯ เกือบไม่มีชีวิตรอด หลังรถยนต์ประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกลงสู่ทะเล แถบรัฐเมน เคราะห์ดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดี เหตุการณ์ระทึกขวัญที่มีการบันทึกภาพวิดีโอและถูกนำไปเผยแพร่ต่อโดยสำนักข่าวต่างๆ
หนังสือพิมพ์ พอร์ทแลนด์เพรสเฮรัลด์ รายงานว่ารถยนต์นิสสันสีน้ำเงินของนางอูร์ซูลา นิกสัน วัย 84 ปี สูญเสียการควบคุมพุ่งทะลุรั้วกั้นและกำลังค่อยๆจมลงสู่ใต้ทะเลบริเวณท่าเรือพอร์ตแลนด์ ของรัฐเมน
"ดูเหมือนน้ำจะไหลเข้ามาในรถเร็วมากๆ" ไมเคิล เวลล์ส หนึ่งในพลเมืองดีบอกกับพอร์ทแลนด์เพรสเฮรัลด์ "ผมเห็นรถค่อยๆจมลง เหมือนน้ำค่อยๆไต่ขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งทะลักเข้าไปในตัวรถ"
แคธี เนลสัน พลเมืองดีอีกคนปีนขึ้นไปบนรถ ก้มลอดผ่านกระจกหลังรถยนต์และดึง นิกสัน ออกมาได้อย่างปลอดภัย "ผมจำได้ว่า ผมก้มลงไปมองหาเธอ เห็นน้ำอยู่เต็มไปหมดบริเวณหน้ารถ ตอนนั้นเธอนั่งอยู่ตรงเบาะหน้า"
เนลสัน บอกกับเอ็นบีซีต่อว่า "ผมแนำนำตัวกับเธอ พยายามทำให้เธอสงบ เธอบอกกับผมว่า ไม่อยากตายที่นี่ ผมจึงตอบกลับไปว่าคุณไม่ตายแน่ คุณต้องจับมือผมไว้และเราจะดึงตัวคุณออกมา"
ในวิดีโอจะเห็นรถยนต์จมลงไปใต้ผิวทะเลแล้วกว่าครึ่งคัน และเหล่าพลเมืองดีสามารถช่วยกันดึง นิกสัน ออกมาทันเวลาอย่างฉิวเฉียด ไม่กี่วินาทีก่อนที่รถยนต์จะจมลงไปทั้งคัน
นอกจากได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีแล้ว นางนิกสัน ยังถือว่าเคราะห์ดีอย่างมาก เนื่องจากใกล้ๆกันนั้น เหล่าเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างฝึกซ้อมปฏิบัติการกู้ภัยพอดี ดังนั้นตำรวจ 2 นายกับกลุ่มของหน่วยดับเพลิง จึงเข้ามาสมทบช่วยเหลือเธอได้อย่างทันท่วงที
หลังจาก เวลล์ส และนิกสัน โผล่ออกมาจากรถ นายตำรวจโรเบิร์ต สลาฟวิง ก็ว่ายน้ำพา นิกสัน กลับมายังฝั่ง จากนั้นก็ส่งตัวเธอไปยังศูนย์การแพทย์เมน เมดิคอล เซ็นเตอร์ เพื่อตรวจอาการ ซึ่งก็พบว่าเธอไม่เป็นไรมาก
รวมแล้วมีพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆเกือบ 30 คนที่เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้บางส่วนต้องได้รับการปฐมพบายาลที่จุดเกิดเหตุ จากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ขณะที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต้นตอของอุบัติเหตุต่อไป
