.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐสภากัมพูชาได้ลงมติปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รับรองเอาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 เป็นเงิน 12,095,073 ล้านเรียล หรือประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 12.9% จากงบประมาณปี 2555 ในนั้นเป็นงบประมาณเพื่อการพัฒนากองทัพ 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10.33% ของทั้งหมด คิดเป็นอัตราเพิ่มมากที่สุดในบรรดากระทรวงทบวงกรมต่างๆ
งบประมาณเพื่อการพัฒนากองทัพ และกองกำลังฝ่ายความมั่นคงสำหรับปี 2556 คือ 400 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 14.46% ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมงบประมาณรายจ่ายสำหรับกระทรวงกลาโหมอีกกว่า 200 ล้านดอลลาร์
หลังการอภิปรายเป็นเวลา 2 วัน รัฐสภาได้โหวตลงมติในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.2556 ด้วยคะแนน 78 ต่อ 88 เสียง สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
นายเกียตชน (Keat Chon) รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ได้ปกป้องร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ โดยระบุว่า เป็นการให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ แก่สวัสดิการสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษา สาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และความมั่นคงทางสังคม ตลอดจนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้านี้ด้วย
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณยังจะช่วยให้กระชับความเข้มแข็งในการปกครองด้วยกฎหมาย ตลอดจนดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาระบบยุติธรรม และกฎหมาย การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ และการต่อต้านคอร์รัปชัน
.
.
อย่างไรก็ตาม เงินงบประมาณเพื่อสวัสดิการสังคมในแขนงต่างๆ มีมูลค่ารวมกันราว 686 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่ม 12.82% เทียบกับงบประมาณปี 2555 ส่วนงบประมาณเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นเงิน 148 ล้านดอลลาร์ (หรือเพิ่มขึ้น 10%) และรัฐบาลยังจัดงบประมาณสำหรับการบริหารทั่วไปเอาไว้ถึง 275 ล้านดอลลาร์ (เพิ่ม 18%) ทั้งนี้ เป็นตัวเลขที่รายงานโดยสำนักข่าวของทางการ
เมื่อคิดเป็นงบประมาณรายจ่ายรายกระทรวง จะพบว่า นอกจากงบประมาณเพื่อพัฒนากองทัพแล้ว กระทรวงกลาโหมยังได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายอีก 245 ล้านดอลลาร์ กระทรวงมหาดไทย 115 ล้านดอลลาร์ กระทรวงสาธารณสุข 225 ล้านดอลลาร์ กระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและการกีฬา 280 ล้านดอลลาร์ กระทรวงสวัสดิการสังคม ทหารผ่านศึก และการฟื้นฟูเยาวชนอีก 103 ล้านดอลลาร์
พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2556 ยังอนุญาตให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งต่างๆ ได้อีกถึง 915 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 30.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี คิดเป็นประมาณ 85.72% ของเพดานกู้ยืมในปีงบประมาณปัจจุบัน สำนักข่าวซึ่งเป็นของกระทรวงแถลงข่าวระบุ
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลกัมพูชายังคงจัดซื้ออาวุธอย่างต่อเนื่อง การส่งมอบล็อตล่าสุดในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นรถถังราว 100 คัน และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะติดปืนกลอีก 40 คัน ที่ซื้อจากสาธารณรัฐยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่า จัดซื้ออาวุธเพื่อการป้องกันประเทศเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ไม่มีการระบุในรายละเอียดว่า งบประมาณเพื่อพัฒนาการป้องกันประเทศ และความมั่นคง 400 ล้านดอลลาร์ในปี 2556 นี้ จะนำไปใช้จ่ายในโครงการใดบ้าง
ตามรายงานในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม หลายปีมานี้ จีนได้เป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่ให้แก่รัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งรถถัง ปืนใหญ่ ปืนกลหลายชนิด ปืนกลกึ่งอัตโนมัติเอเค-47 กับปืนกลรุ่นใหม่อีกจำนวนหนึ่งสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยการเปิดเผยทั้งจำนวนที่ซื้อ ตลอดจนมูลค่าของอาวุธยุทโธปกรณ์จากจีน.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐสภากัมพูชาได้ลงมติปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รับรองเอาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 เป็นเงิน 12,095,073 ล้านเรียล หรือประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 12.9% จากงบประมาณปี 2555 ในนั้นเป็นงบประมาณเพื่อการพัฒนากองทัพ 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10.33% ของทั้งหมด คิดเป็นอัตราเพิ่มมากที่สุดในบรรดากระทรวงทบวงกรมต่างๆ
งบประมาณเพื่อการพัฒนากองทัพ และกองกำลังฝ่ายความมั่นคงสำหรับปี 2556 คือ 400 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 14.46% ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมงบประมาณรายจ่ายสำหรับกระทรวงกลาโหมอีกกว่า 200 ล้านดอลลาร์
หลังการอภิปรายเป็นเวลา 2 วัน รัฐสภาได้โหวตลงมติในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.2556 ด้วยคะแนน 78 ต่อ 88 เสียง สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
นายเกียตชน (Keat Chon) รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ได้ปกป้องร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ โดยระบุว่า เป็นการให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ แก่สวัสดิการสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษา สาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และความมั่นคงทางสังคม ตลอดจนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปีหน้านี้ด้วย
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณยังจะช่วยให้กระชับความเข้มแข็งในการปกครองด้วยกฎหมาย ตลอดจนดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาระบบยุติธรรม และกฎหมาย การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ และการต่อต้านคอร์รัปชัน
.
.
อย่างไรก็ตาม เงินงบประมาณเพื่อสวัสดิการสังคมในแขนงต่างๆ มีมูลค่ารวมกันราว 686 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่ม 12.82% เทียบกับงบประมาณปี 2555 ส่วนงบประมาณเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นเงิน 148 ล้านดอลลาร์ (หรือเพิ่มขึ้น 10%) และรัฐบาลยังจัดงบประมาณสำหรับการบริหารทั่วไปเอาไว้ถึง 275 ล้านดอลลาร์ (เพิ่ม 18%) ทั้งนี้ เป็นตัวเลขที่รายงานโดยสำนักข่าวของทางการ
เมื่อคิดเป็นงบประมาณรายจ่ายรายกระทรวง จะพบว่า นอกจากงบประมาณเพื่อพัฒนากองทัพแล้ว กระทรวงกลาโหมยังได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายอีก 245 ล้านดอลลาร์ กระทรวงมหาดไทย 115 ล้านดอลลาร์ กระทรวงสาธารณสุข 225 ล้านดอลลาร์ กระทรวงศึกษาธิการ เยาวชนและการกีฬา 280 ล้านดอลลาร์ กระทรวงสวัสดิการสังคม ทหารผ่านศึก และการฟื้นฟูเยาวชนอีก 103 ล้านดอลลาร์
พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2556 ยังอนุญาตให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมเงินจากแหล่งต่างๆ ได้อีกถึง 915 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 30.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี คิดเป็นประมาณ 85.72% ของเพดานกู้ยืมในปีงบประมาณปัจจุบัน สำนักข่าวซึ่งเป็นของกระทรวงแถลงข่าวระบุ
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลกัมพูชายังคงจัดซื้ออาวุธอย่างต่อเนื่อง การส่งมอบล็อตล่าสุดในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นรถถังราว 100 คัน และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะติดปืนกลอีก 40 คัน ที่ซื้อจากสาธารณรัฐยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่า จัดซื้ออาวุธเพื่อการป้องกันประเทศเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ไม่มีการระบุในรายละเอียดว่า งบประมาณเพื่อพัฒนาการป้องกันประเทศ และความมั่นคง 400 ล้านดอลลาร์ในปี 2556 นี้ จะนำไปใช้จ่ายในโครงการใดบ้าง
ตามรายงานในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม หลายปีมานี้ จีนได้เป็นผู้สนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่ให้แก่รัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งรถถัง ปืนใหญ่ ปืนกลหลายชนิด ปืนกลกึ่งอัตโนมัติเอเค-47 กับปืนกลรุ่นใหม่อีกจำนวนหนึ่งสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไม่เคยการเปิดเผยทั้งจำนวนที่ซื้อ ตลอดจนมูลค่าของอาวุธยุทโธปกรณ์จากจีน.
