xs
xsm
sm
md
lg

ถนนวงแหวนท่าขี้เหล็กใกล้เสร็จ รถจะไม่ติดอีกแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR ><FONT color=#000033>ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย-ท่าขี้เหล็กคับคั่งจอแจด้วยผู้คนและยานพาหนะในยามบ่ายแก่ๆ วันที่ 23 มิ.ย.2552 การคมนาคมขนส่งผ่านด่านชายแดนแห่งนี้เพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การค้าขาย การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง การเมืองและความมั่นคงพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของสื่อในประเทศนี้ ปัจจุบันท่าขี้เหล็กกลายเป็นเมืองที่าการจราจรตัดขัดแสนสาหัสอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน และหวังว่าถนนวงแหวนสายใหม่จะช่วยแก้ไขได้. -- ภาพโดยวุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในสายตาของคนทั่วไป ท่าขี้เหล็กดูจะเป็นแห่งสุดท้ายที่จะต้องแก้ปัญหาจราจรติดขัด แต่สำหรับผู้ที่ข้ามไปมาเป็นประจำในช่วงหลายปีมานี้ จะทราบดีถึงความยากลำบากในการสัญจรไปมาอันเนื่องมาจากปัญหารถติด แต่สื่อในประเทศนี้กล่าวว่า อีกไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้นด้วยถนนวงแหวนสายใหม่

ถนนวงแหวนระยะยางราว 2 กิโลเมตรกำลังจะทำให้เมืองชายแดนในรัฐชานตะวันออกแห่งนี้ สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับการค้าขาย และการท่องเที่ยว นิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทม์ส รายงานในฉบับประจำสัปดาห์นี้

ปัจจุบัน เมืองท่าขี้เหล็กมีถนนสายหลักอยู่เพียงสายเดียวคือ ถนนบอโย้ก (Bogyoke) ซึ่งมีช่วงแคบที่สุด 32 ฟุต (ราว 9.7 เมตร) และกว้างที่สุดคือ 42 ฟุต (เกือบ 13 ม.) ทำให้ถนนมีสภาพเป็นคอขวดในหลายช่วง จึงเกิดการจราจรติดขัดแบบสาหัสในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสะพานชิตจีเย (Chit Gyi Yay)

“เราจะสร้างถนนวงแหวนคู่ขนานกับถนนบอโย้กเพื่อลดปัญหาการจราจร” เมียนมาร์ไทม์ส อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งกล่าวด้วยว่า การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นแล้วในช่วงจากสะพานชิตจีเยไปยังสะพานอีกแห่งหนึ่ง ระยะทาง 5,400 ฟุต (ราว 1.6 กม.) จึงเหลืออยู่อีกเพียง 700 เมตรเศษเท่านั้น คาดว่าจะเชื่อมทั้งสองจุดเข้าด้วยกันได้ภายในสิ้นปีนี้

เมืองท่าขี้เหล็กมีประชากรเพียงประมาณ 40,000 คน จนถึงสิ้นเดือน ก.ย.ปีนี้ มีรถจักรยานยนต์จดทะเบียน จำนวน 44,750 คัน ซึ่งมากกว่าจำนวนคน มีรถตุ๊กตุ๊กอีก 1,193 คัน รถเพื่อใช้ในการเกษตรอีก 1,217 คัน รถยนต์ส่วนตัว 1,217 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก และปิกอัพ 162 คัน รถบรรทุกหนัก 118 คัน รถบัสโดยสาร 49 คัน ยานพาหนะชนิดอื่นๆ อีก 12 คัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหารถติดไม่ได้เกิดจากยวดยานฝั่งพม่าเท่านั้น หากเกิดจากยวดยานที่สัญจรข้ามแดนไปจากฝั่งไทยอีกด้วย เนื่องจากการค้าขายข้ามแดนขยายตัวรวดเร็ว เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่มีขบวนรถข้ามไปมามิได้ขาด เกษตรกรซื้อหายานพาหนะใช้ในการเกษตรมากขึ้นทุกๆ ปีอีกด้วย

ท่าขี้เหล็กเป็นประตูหน้าด่านสำคัญจากไทยในการเดินทางสู่ภาคเหนือพม่า เป็นต้นทางของทางหลวงสาย 4 (National Highway 4) ซึงในปัจจุบัน สามารถเชื่อมต่อกับเมืองเชียงตุง (Kengtung) เมืองตองยี (Taunggyi) ได้ และยังสามารถเดินทางต่อไปได้ถึงเมืองมัณฑะเลย์ และที่อื่นๆ โดยทางบก

ตามรหัสของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก หรือเอสแคป (Economic and Social Commission for Asia and the Pacific) ทางหลวงที่ต่อจากถนนพหลโยธินของไทยเข้าสู่ดินแดนพม่าที่ อ.แม่สายนี้คือ ทางหลวงเอเชียสาย 3B (หรือ A3B) ขณะที่อีกสายหนึ่งแยกเข้าสู่ดินแดนลาวที่ อ.เชียงของ มีรหัสเป็น A3A โดยมีปลายทางเดียวกันคือ มณฑลหยุนหนันของจีน

นายโคโค แห่งคณะกรรมการพัฒนาท่าขี้เหล็กกล่าวกับเมียนมาร์ไทม์สว่า ถ้าหากทำถนนวงแหวนเสร็จแล้ว ปัญหารถติดยังแก้ไม่ได้ ฝ่ายบริหารยังมี “ก๊อกสอง” อีก นั่นคือ จะจัดทางเดินใหม่ให้แก่บรรดารถอีแต๋น กับรถแล่นช้าชนิดอื่นๆ ไม่ให้ใช้ทางร่วมกับรถโดยสาร กับรถขนส่งอีก

เมียนมาร์ไทม์สยังรายงานด้วยว่า ปัจจุบัน ทางการที่นั่นกำลังเข้มงวดกวดขันอย่างมาก กวาดล้าง และจับยึดยาเสพติด อาวุธ และสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ เพื่อรักษาความสงบในเมืองชายแดนเล็กๆ แห่งนี้.

ยามบ่ายที่ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร/23 มิ.ย.2552

2

3

4

5

6

7

8

9
กำลังโหลดความคิดเห็น