พระสงฆ์พม่าชุมนุมประท้วงต่อต้านมุสลิมในยะไข่

เอเอฟพี - พระสงฆ์พม่าหลายร้อยรูปรวมตัวกันเดินขบวนประท้วงไปตามถนนเมื่อวันอังคาร (9 ต.ค.) ในรัฐทางตะวันตกของประเทศที่เกิดเหตุความรุนแรง เพื่อประท้วงต่อต้านชาวมุสลิมท้องถิ่น และต่อต้านความรุนแรงที่มีเป้าหมายการโจมตีเป็นชาวพุทธในบังกลาเทศ

พระสงฆ์ชุมนุมประท้วงกันอยู่ภายนอกสถานกงสุลบังกลาเทศในเมืองซิตตะเว รัฐยะไข่ พร้อมกล่าวคำว่า “หยุดทำร้ายศาสนาพุทธ” และ “ไม่ต้องการความรุนแรง” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนห้อมล้อมเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่หลายร้อยคน

พระสงฆ์บางรูปถือป้ายที่มีข้อความว่า “คะลัร ออกไป” (คะลัร เป็นคำเรียกชาวมุสลิม หรือบุคคลที่มีลักษณะคล้ายชาวอินเดีย) ขณะเดินไปตามถนนในเมืองซิตตะเว ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ของรัฐยะไข่ที่เกิดเหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธ และมุสลิม

เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองซิตตะเว ระบุว่า มีพระสงฆ์ประมาณ 400 รูปเข้าร่วมขบวนประท้วง และประชาชนทั่วไปอีกมากกว่า 1,000 คน ติดตามดูขบวนประท้วง

“พระสงฆ์เดินขบวนประท้วงอย่างสงบ ขณะเดียวกัน ทางการก็เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้ด้วย” เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ระบุ

ความตึงเครียดทางศาสนาขยายตัวสูงขึ้นในรัฐยะไข่หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมโรฮิงญาที่ปะทุขึ้นในเดือน มิ.ย. และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และอีกหลายหมื่นคนต้องพักอยู่ในค่ายพักแรมชั่วคราว รัฐยะไข่ยังคงอยู่ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน และแม้ว่าการชุมนุมประท้วงจะไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดการประท้วงอย่างเป็นทางการ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขัดขวางการเดินขบวนประท้วงของพระสงฆ์ในครั้งนี้แต่อย่างใด

ผู้ชุมนุมประท้วงยังเรียกร้องให้มีการขับไล่ชุมชนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมออกไปจากเมือง และเรียกร้องให้บังกลาเทศดำเนินการคุ้มครองชาวพุทธให้มากขึ้น

พระสงฆ์ปินยา ซอ ตา หนึ่งในแกนนำระบุว่า ภายในจดหมายเปิดผนึกยังได้ร้องขอให้รัฐบาลบังกลาเทศดำเนินการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบต่อชาวพุทธที่อยู่ในประเทศ และประท้วงต่อต้านองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ที่เปิดสำนักงานในพม่าอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศระบุว่า ในสัปดาห์ก่อนพวกเขาได้จับกุมประชาชนเกือบ 300 คน ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายระลอกในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศที่วัดพุทธ และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย และถูกวางเพลิง.