xs
xsm
sm
md
lg

อีกไม่นานจะได้เห็น MQ-1 “เพรเดเตอร์” นักฆ่าเลือดเย็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นไป สหรัฐฯ จะกลับคืนสู่เอเชียอย่างเป็นขบวนการ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ กลับมาพร้อมเขี้ยวเล็บต่างๆ เต็มอัตราศึก และต่างไปจากเมื่อหลายทศวรรษก่อน สหรัฐฯ กลับมาอย่างไฮเทค ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้เปลี่ยนรูปโฉมการทำสงครามไปอีกขั้น

สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นในย่านนี้มาก่อน อย่างน้อยก็อย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ ยานบินไร้คนบังคับที่สหรัฐฯ มีใช้หลากหลายรุ่น รวมทั้ง MQ-1 Predator ที่เชื่อว่าผู้คนแถบนี้จะได้เห็นกันชินตาในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าพักหลังๆ นี้จะมีการถกเถียงในแง่ศีลธรรมเกี่ยวกับปฏิบัติการของมันอย่างหนาหูมากขึ้นก็ตาม

นับตั้งแต่ปี 2538 ที่ออกงานแรก MQ-1 เพรเดเตอร์ “นักล่า” ตัวนี้ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย (ในความหมายของสหรัฐฯ)

ถึงปัจจุบัน ยานรุ่นนี้ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะทางกว่า 1 ล้านไมล์ มีประวัติปฏิบัติการในหลายประเทศ จากตะวันออก และแอฟริกา ไปจนถึงบอสเนีย และในสงครามโคโซโว จากภารกิจบินลาดตระเวน ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา เพรเดเตอร์กลายเป็นยานโจมตีที่น่าเกรงขาม เมื่อพัฒนาให้ติดจรวดเฮลไฟร์ (Hellfire) หรือ “ไฟนรก”

“นักล่า” ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักในการไล่ล่าโจมตีทำลายที่ตั้งกองโจรอัลกออิดะ ทั้งในอัฟกานิสถาน และในปากีสถาน หน่วยงานที่ใช้มากที่สุดนอกจากกองทัพอากาศแล้ว ก็ยังรวมทั้งองค์การประมวลข่าวกลางหรือ “ซีไอเอ” ด้วย

ยานเพรเดเตอร์ยังอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารผู้นำอัลกออิดะคนสำคัญจำนวนหนึ่ง คนเหล่านั้นถูกปลิดชีพโดยไม่รู้ตัวขณะเดินทางไปในกองคาราวานลับ หรือในรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน หลายคนเสียชีวิตในเวลากลางคืน

และว่ากันว่า เพรเิดอร์อยู่เบื้องหลังการสังหารประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียเมื่อต้นปีนี้
 <TABLE BORDER=0 WIDTH=645 CELLSPACING=1 CELLPADDING=2 ALIGN=Center BGCOLOR=#000000 CLASS=BODY><TR><TD BGCOLOR=#99ccFF WIDTH=>ยาน MQ-9 Reaper คนถือเคียวจากนรก รุ่นน้องที่ใหญ่โตกว่า บินได้เร็วกว่าและสูงกว่า ไปได้ไกลกว่า บรรทุกได้มากกว่า ติดเขี้ยวเล็บได้หลากหลายชนิดยิ่งกว่า แต่หน้าตาเหมือนกันเด๊ะ หลายคนเรียกเจ้า รีปเปอร์ ตัวนี้ว่า เพรเดเตอร์ บี (Predator B) ตามเครื่องต้นแบบของมัน อีกไม่นานก็คงจะโผล่มาให้เห็นในย่านนี้เหมือนกัน. -- US Air Force Photo.</TD></TR></TABLE>
.
ปฏิบัติการทางทหารของเพรเดเตอร์เป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ไม่ปรารถนาจะเปิดเผย แต่สถิติที่มีผู้เก็บรวบรุมเอาไว้ระบุว่า ในปากีสถานเพียงแห่งเดียวปีนี้กองทัพอากาศสหรัฐส่งเพรเดเตอร์ออกปฏิบัติการโจมตีสัปดาห์ละ 34 เที่ยว ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงปฏิบัติการลับสุดยอดภายใต้ซีไอเอ

เมื่อใช้ในภารกิจที่ไม่ติดอาวุธ เจ้า “นักล่า” ตัวนี้จะได้รหัส RQ-1 ซึ่งอักษร “R” นั้นไปจากคำว่า “Reconnaissance” ซึ่งหมายถึงการลาดตระเวน และ “Q” ใช้หมายถึงยานไร้คนบังคับ (Unmanned Aerial Vehicle) และเลข “1” บ่งบอกให้ทราบว่ามันคือยานตัวแรกของซีรีส์นี้

เพเดเตอร์จะได้รหัส MQ-1 เมื่อติดอาวุธ และอุปกรณ์ในภารกิจโจมตี ซึ่งอักษร “M” หมายถึง “Multirole” หรือ “หลายบทบาท” นั่นเอง

ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา บริษัทเจเนอรัลอโทมิคส์ (General Atomics) ผลิต RQ-1 กับ MQ-1 ให้รัฐบาลสหรัฐฯ กว่า 350 ลำ รวมมูลค่าราว 70,000 ล้านดอลลาร์

ยานเพรเดเตอร์ไม่ได้วิเศษวิโสไปทุกอย่าง มันมีจุดอ่อนมากมาย มีประวัติการถูกยิงตกไปหลายสิบลำ บ้างก็เกิดขัดข้องทางเทคนิค และโหม่งโลก อีกทั้งยังไม่สามารถป้องกันตนเองได้ถึง 100% มันเหมาะสำหรับการโจมตีข้าศึกที่ไม่มีการป้องกันทางอากาศ เพราะจรวดต่อสู้อากาศยานขนาดเล็กชนิดประทับไหล่ยิง ก็สามารถสอยมันร่วงได้โดยง่าย

แต่สหรัฐฯ ก็มีทางเลือก หากภารกิจใดหนักหน่วง และสุ่มเสี่ยงมากกว่า MQ-9 Reaper รุ่นน้องที่มีขนาดใหญ่โตกว่า บินเร็วกว่า และติดเขี้ยวเล็บได้มากกว่าก็จะขึ้นปฏิบัติการแทนแบบเอาให้สมน้ำสมเนื้อ

แม้จะมีขนาดใหญ่โตต่างกัน ติดอาวุธได้มากกว่ากัน สร้างความหายนะได้มากกว่าเพรเดเตอร์ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาของมันที่เหมือนกันราวกับแกะ ทำให้หลายคนชอบที่จะเรียก MQ-9 “รีปเปอร์” ตัวนี้ว่า Predator B อันเป็นเครื่องต้นแบบ

ยาน MQ-1 เพรเดเตอร์ยังมี “ชื่อเสีย” ในเรื่องการทำให้คนที่ไม่รู้ อีโหน่อีเหน่เสียชีวิตมาแล้วเป็นจำนวนมากทั้งในอิรัก อัฟกานิสถาน และปากีสถาน ซึ่งสหรัฐฯ เรียกสิ่งนี้ว่า “การสูญเสียที่ไม่มีทางเลี่ยง” (Collateral Damage) หรือการสูญเสียแบบตัวประกันที่เลี่ยงได้ยาก

แต่ถึงแม้จะถูกประณามว่าปฏิบัติการป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรม MQ-1 เพรเดเตอร์ ก็ยังเป็นยาน UAV สำหรับการโจมตีเพียงชนิดเดียวที่ใช้แพร่หลายที่สุดในปัจจุบัน

มันยังมีความน่าสะพรึงกลัวครบถ้วน บินได้ด้วยความเร็วเท่าๆ กับเครื่องบินโดยสารที่บินเร็วลำหนึ่ง บินได้ทั้งในระดับต่ำ และสูง ทั้งกลางวัน และกลางคืน ขึ้นอยู่กับลักษณะภารกิจ และพื้นที่ปฏิบัติการ วันนี้เพรเดเตอร์ยังติดอาวุธได้หลากหลายชนิดยิ่งขึ้น ทั้งจรวดอากาศสู่พื้น และอากาศสู่อากาศ ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังพัฒนาให้มันติด “สมาร์ทบอมบ์” ได้อีกด้วย

มันบินไปทำลายเป้าหมายได้ไกลกว่า 720 กม. ก่อนจะบินกลับฐาน และบินอยู่กลางอากาศได้นานกว่า 14 ชั่วโมง ไกลพอ และนานพอที่จะไปถล่มใครก็ได้ จากฐานปฏิบัติการในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯ มีอยู่เพียงเท่านี้ หากมี UAV อีกนับสิบๆ ชนิด กับหลายโครงการที่อยู่ในช่วงการทดสอบ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไปไกลกว่าใครๆ รวมทั้งเพรเดเตอร์ที่เก่าแสนเก่า และยังใช้เครื่องยนต์ 4 สูบใบพัดติดเทอร์โบชาร์เจอร์"

ไปทำความรู้จักกับ “นักล่ากลางหาว” ที่น่าเกรงขาม ก่อนที่มันจะมาถึง.

นักล่าไร้คนขับ US Air Force Photo
<bR><FONT color=#000033>ยาน MQ-1 เพรเดเตอร์ เช่นลำนี้ บรรทุกเต็มอัตราได้ถึง 2,250 ปอนด์ หรือ ราว 1 ตัน. </b>
2
<bR><FONT color=#000033>เพรเดเตอมีช่วงปีกยาว 14.8 เมตร สูงราว 2 เมตร วัดตลอดลำตัวยาว 8.2 เมตร.  </b>
3
<bR><FONT color=#000033>เมื่อแปลงโฉมเป็น RQ-1 มันจะบินล้วงตับใครต่อใครจากความสูง 25,000 ฟุต เกือบเท่าๆ กับเครื่องบินโดยสารทั่วไป.</b>
4
<bR><FONT color=#000033>เพรเดเตอร์สามารถบินได้เร็วกว่า 200 กม./ชม. แต่ปรกติทั่วไปก็จะฉลุยไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็ว 120-160 กม. เท่านั้น. </b>
5
<bR><FONT color=#000033>และมันก็มีเพียงใบพัด 2 แฉก ธรรมดาๆ ที่ให้พลังทั้งผลักดันและช่วยยกลำตัวขึ้น. </b>
6
<bR><FONT color=#000033>กรมสรรพากรสหรัฐ รวมทั้งหน่วยควบคุมชายแดนใช้ยานเพรเดเตอร์บินสอดแนวตามแนวชายแดนด้านเม็กซิโก.</b>
7
<bR><FONT color=#000033>ในกิจการพลเรือน เพรเดเตอร์ช่วยค้นหาผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้การสำรวจความเสียหายง่ายขึ้น เร็วขึ้น. </b>
8
<bR><FONT color=#000033>แม้จะได้ชื่อว่า ไร้คนบังคับ แต่เพรเดเตอร์ก็ยังต้องพึ่งพาคนในการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ.  </b>
9
<bR><FONT color=#000033>ยานไร้คนบังคับ แต่จะต้องใช้คนถึง 60 คน ในการปฏิบัติการและดูแลรักษาครบวงจร และอย่างน้อย 2 คน เพื่อติดตั้ง จรวด ไฟนรก และในตอนนี้ผู้ผลิตกำลังหาทางติด สมาร์ทบอมบ์ ขนาดเล็ก.   </b>
10
<bR><FONT color=#000033>ทหารอากาศติดตั้งอุปกรณ์ในระบบตรวจหาเป้าหมายหลายเป้าได้พร้อมๆ กัน เป็น UAV ก็จริง แต่ต้องมีคนจำนวนมากอยู่เบื้องหลังไม่ต่างจากอากาศยานอื่นๆ.</b>
11
<bR><FONT color=#000033>ทหารอากาศติดตั้งอุปกรณ์ในระบบตรวจหาเป้าหมายหลายเป้าได้พร้อมๆ กัน เข้าแทนที่กล้องถ่ายรูปดิตจิตอลความคมชัดสูงยิ่ง เพื่ทำให้มันกลายเป็น MQ-1 นักล่า.</b>
12
<bR><FONT color=#000033>เพรเดเตอร์จะต้องใช้ทางวิ่ง 1,500-1,600 เมตร สำหรับวิ่งขึ้นลง เท่าๆ กับเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กลำหนึ่ง. </b>
13
<bR><FONT color=#000033>ทดลองติดอาวุธครั้งแรกในเดือน ก.พ.2544 สหรัฐฯ ส่งมันไปถล่มบ้าน (สมมุติ) ของบินลาดินในอัฟกานิสถาน จากนั้นมันก็ได้กลายมาเป็น MQ-1 คือเวอร์ชั่นติดอาวุธ.</b>
14
<bR><FONT color=#000033>หนึ่งเดือนหลังเกิดเหตุการณ์ 11/9 เจ้า MQ-1 มีภารกิจหลักในการออกตามล่าหาบินลาดินกับพลพรรค. </b>
15
<bR><FONT color=#000033>และตั้งแต่นั้นมาเพรเดเตอร์ก็เป็นเครื่องมือสำคัญปฏิบัติการโจมตีกลุ่มอัลกออิดะในอัฟกานิสถาน เยเมน และปากีสถาน. </b>
16
<bR><FONT color=#000033>พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกจับและถูกสังหาร เพียงไม่นานหลังจากยานเพรเดเตอร์ลำหนึ่ง ยิงถล่มคอนวอยของอดีตผู้นำมันกลับไปบินเหนือลิเบียอีกในเดือน ก.ย.ปีนี้ หลังสถานกงสุลสหรัฐฯ ถูกโจมตี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ถูกสังหาร ซึ่งทำให้ผู้คนแตกตื่น. </b>
17
<bR><FONT color=#000033>ในช่วงแรกๆ ของสงครามอิรัก ยาน MQ-1 ลำเก่าๆ ที่ใช้งานมามากแล้ว ถูกใช้ล่อเป้าให้อิรักยิง เพื่อเปิดเผยแหล่งที่ตั้งของหน่วยต่อสู้อากาศยาน.</b>
18
<bR><FONT color=#000033>เพรเดเตอร์บินกลับฐานในรัฐเนวาดา ในยามอาทิตย์อัสดง ปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐมีอย่างน้อย 3 ฝูงบินที่ใช้เพรเดเตอร์แทนเครื่องบินรบ F-16 ที่ปลดประจำการไป. </b>
19
<bR><FONT color=#000033>และนี่คือ นักบิน ซึ่งทำงานคนเดียวเดี่ยวๆ แต่สามารถควบคุมสั่งการ MQ-1 เพรเดเตอร์ได้ครั้งละหลายๆ ลำ ในหลายจุดปฏิบัติการได้พร้อมๆ กัน แม้จะอยู่ไกลออกไปกว่า 700 กม. และนำพวกนั้นกลับมายังฐานแห่งนี้.</b>
20
กำลังโหลดความคิดเห็น