.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงความมั่นคงเวียดนามแถลงในวันอังคาร 5 ก.ย. ว่า จับกุมนายซเวืองจี๊ยวุ๋ง (Dương Chí Dũng) วัย 55 ปี อดีตผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจเดินเรือแห่งชาติได้แล้ว หลังจากหลบหนีเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน การจับกุมมีขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งหนึ่ง ด้วยความร่วมมือของตำรวจสากล และถูกส่งกลับมายังเวียดนาม หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน
บริษัทเดินเรือแห่งชาติ (Vietnam National Shipping Line) หรือ “วินาไลน์” เป็นบริษัทเดินเรือใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเรือให้บริการกว่า 150 ลำ ทางการได้ตั้งข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวงแก่นายยวุ๋ง ซึ่งอยู่ในหมายจับตำรวจสากลมาตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.ปีนี้
ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจวินาไลน์อีก 6 คน ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ อันเป็นความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐบาล ในการกำจัดการคอร์รัปชัน ซึ่งกัดกร่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมทั่วไปเรียกร้องต้องการ หนังสือพิมพ์ของสมาคมยุวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์รายงาน
เมื่อสิ้นปี 2554 รัฐวิสาหกิจเดินเรือมีหนี้สินพอกพูนกว่า 43 ล้านล้านด่ง (2,000 ล้านดอลลาร์) มากกว่าสินทรัพย์ที่มีอยู่กว่า 4 เท่าตัว อันเป็นผลจากการใช้จ่ายที่ “ผิดปกติ” ในโครงการท่าเรือจำนวน 14 แห่ง กับการจัดซื้อจัดจ้าง ที่คณะกรรมการตรวจตราแห่งรัฐสงสัยว่า อาจมีการยักย้ายถ่ายเทเงินไปเข้ากระเป๋าผู้บริหารระดับสูงกับพวกพ้อง
นอกจากนั้น วินาไลน์ยังใช้เงินทุนของรัฐไปในการก่อสร้างอีกหลายโครงการ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการก่อสร้างอู่ซ่อมเรือของวินาไลน์หลายแห่งในภาคใต้มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์
กรณีหนึ่งในปี 2550 นายยวุ๋งเป็นผู้อนุมัติการก่อสร้างอู่ซ่อมใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tau) มูลค่า 3.8 ล้านล้านด่ง (185 ล้านดอลลาร์) โดยไม่ได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี และเมื่อเริ่มการก่อสร้างในเดือน ก.ค.2554 วินาไลน์ได้เพิ่มมูลค่าก่อสร้างขึ้นเป็น 6.5 ล้านล้านด่ง (311 ล้านดอลลาร์) ในขณะที่มีเงินทุนอยู่ในมือเพียง 29.6 ล้านดอลลาร์
อีกกรณีหนึ่งซึ่งทำให้รัฐสูญเงินงบประมาณไปราว 514,000 ล้านด่ง (24.6 ล้านดอลลาร์) เมื่อวินาไลน์ซื้อท่าเทียบเรือแบบลอยน้ำจากรัสเซีย ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง แล้วให้บริษัทลูกเป็นผู้จัดซ่อมแซม ในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง ทำให้คณะกรรมการตรวจตราแห่งรัฐเริ่มเห็นวี่แววแห่งการทุจริตคอร์รัปชัน เตื่อยแจ๋กล่าว
.
.
หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ด้วยความผิดเพียงเท่านี้ นายยวุ๋งอาจถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่การกระทำผิดในรัฐวิสาหกิจเดินเรือก็ยังมีมากยิ่งกว่านี้ซึ่งทำให้รัฐบาล และประเทศเสียหายอย่างใหญ่หลวง และหากพบว่ามีการยักยอกเงินของรัฐไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวก็อาจจะมีโทษถึงประหารชีวิต
โครงการอื้อฉาว ยังรวมทั้งการจัดซื้อท่าเรือลอยน้ำจากสิงคโปร์มูลค่า 9 ล้านดอลลาร์ แต่ค่าซ่อมแซมโดยบริษัทลูกแห่งเดียวกัน เพื่อให้ใช้งานได้นั้นสูงถึง 26.3 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าราคาซื้อถึง 70% ทุ่นดังกล่าวผลิตในญี่ปุ่น และผ่านการใช้งานมา 43 ปี
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้จับกุมนายมายวันฟุก อดีตซีอีโอของวินาไลน์ นายเจิ่นหือว์เจียว อดีตรองซีอีโอ ด้วยข้อกล่าวหาทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจคล้ายกันนี้
ระหว่างการประชุมเต็มคณะ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ได้ยกย่องตำรวจในการจับกุมนายเหวียนดึ๊กเกียน ผู้ก่อตั้งธนาคารเอเชียพาณิชย์การ และการจับกุมนายหลีซวนหาย ซีอีโอของธนาคารแห่งเดียวกัน และเรียกร้องให้เร่งการควานหาตัวอดีต ผอ.ใหญ่วินาไลน์ ไปดำเนินคดี
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระหว่างปี 2550-2553 วินาไลน์ได้จัดซื่อเรือเก่าจำนวน 73 ลำ มูลค่า 1,090 ล้านดอลลาร์ รวมทั้ง 17 ลำ ที่เอกสารของทางการระบุว่า “เก่าจนเกินไป”
ในปี 2554 วินาไลน์ได้สูญเงินไป 454,000 ล้านด่ง (21 ล้านดอลลาร์) จากการบริหารที่หย่อนประสิทธิภาพ และ “การกระทำผิดพลาดที่ยืดเยื้อยาวนานในการบริการธุรกิจ” รายงานของรัฐบาลระบุ.