xs
xsm
sm
md
lg

หนี้เน่า $9.7 พันล้านจิ๊บๆ เทียบยุค “ต้มยำกุ้ง” แบงก์ชาติเวียดนามบอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม เหวียนวันบี่ง (Nguyen Van Binh) ระหว่างการประชุมรัฐสภานัดวันที่ 19 ส.ค.2555 ได้เปิดเผยตัวเลขที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ในระบบธนาคารของประเทศ นายบี่งกล่าวว่าเทียบกับของไทยกับอินโดนีเซียในยุคที่ซมพิษต้มยำกุ้งแล้ว เอ็นพีแอลของเวียดนามในปัจจุบันเป็นเรื่องเล็ก. -- ภาพ: Tuoi Tre Online. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนามได้บอกให้สาธารณชนไม่ต้องตกอกตกใจกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มหาศาลในระบบธนาคารขณะนี้ โดยระบุว่า หากเทียบกับของไทย และอินโดนีเซียในยุควิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” แล้ว ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัส สองประเทศรอดพ้นวิกฤตมาได้เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว

นายเหวียนวันบี่ง (Nguyen Van Binh) ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม (State Bank of Vietnam) กล่าวถึงเรื่องนี้ ขณะตอบคำถามผู้แทนราษฎรจากนครโฮจิมินห์ระหว่างประชุมรัฐสภาในตอนเช้าวันอาทิตย์ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อต่างๆ ในช่วงสองวันมานี้

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ “เอ็นพีแอล” (Non-Performing Loans) ในระบบธนาคารของเวียดนามปัจจุบันมียอดรวมกันทั้งหมดราว 202.1 ล้านล้านด่ง หรือ 9,700 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นประมาณ 8.6% ของสินเชื่อทั้งระบบ นับเป็นอัตราสูงน่าห่วง “แต่ไม่ต้องตกใจ” นายบี่งกล่าว

“ในวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เอ็นพีแอลของไทย และอินโดนีเซียพุ่งขึ้น 47 และ 54% ตามลำดับ แต่ทั้งสองประเทศก็ผ่านมาได้เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว” ผู้ว่าการ SBV ซึ่งกำกับดูแลระบบการเงินของประเทศกล่าว

นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน ที่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ หลังจากมีข่าวเล่าลือกระฉ่อนมานานนับเดือนว่า ธนาคารกลางปกปิดตัวเลข ซึ่งบ้างก็ว่าอัตราหนี้ไม่เคลื่อนไหวในระบบสูงถึง 13% บ้าง 11% บ้าง ตามข้อมูลของบริษัทจัดความน่าเชื่อถือต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินหลายแห่งได้แสดงตัวเลขเอ็นพีแอลเพียง 117.72 ล้านล้านด่ง หรือราว 5,630 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.47% ของยอดปล่อยกู้ ตัวเลขของ SBV แม้จะสูงกว่า แต่ก็ได้สร้างความกระจ่าง และสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่ฝ่ายต่างๆ ได้มากขึ้น หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋กล่าว

นายบี่งกล่าวว่า ธนาคารแห่งรัฐไม่สามารถจะเชื่อถือข้อมูลจากฝ่ายอื่นๆ ได้ จึงมีการจัดตั้งระบบตรวจสอบสถาบันการเงินขึ้นมา และตรวจสอบครั้งล่าสุดได้พบว่า เอ็นพีแอลของแบงก์บางแห่งสูงถึง 30% หรือกระทั่ง 60% ซึ่งทำให้เงินทุนจดทะเบียน “ถูกกลืนหายไป” นายบี่งกล่าว
.
<bR><FONT color=#000033>เจ้าของร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่งในกรุงฮานอยคลี่ธนบัตรฉบับละ 100,000 ด่งให้ลูกค้าดู ในภาพวันที่ 1 ก.ค.2554 ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนามแถลงในสัปดาห์นี้ว่า เวียดนามมีหนี้ที่กำลังมีปัญหาอยู่เกือบหมื่นล้านดอลลาร์ ตัวเลขสูงแต่ก็ไม่ต้องตกใจ. -- REUTERS/Kham. </b>
<bR><FONT color=#000033>พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย รับเงินจากลูกค้าเป็นตั้งๆ ในภาพวันที่ 23 ก.พ.2554 สื่อในเวียดนามรายงานว่าสัปดาห์นี้ธนาคารแห่งรัฐ (State Bank of Vietnam) ได้อัดเงินเข้าระบบราว 240 ล้านดอลลาร์เผื่อเหนียวหากสภาพคล่องฝืด หลังการจับกุมนายแบงก์คนสำคัญคนหนึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่สังคมกำลังตื่นตระหนกข่าวลือเกี่ยวกับตัวเลขหนี้มีปัญหา. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam.</b>
.
อย่างไรก็ตาม ในระบบการเงินของประเทศนั้น แบงก์พาณิชย์ทุกแห่งต้องจัดสรรเงินก้อนหนึ่งตามกฎหมาย เอาไว้รองรับหนี้สูญเพื่อไม่ให้กระทบถึงเงินออมของประชาชน แต่จะกระทบตัวเลขกำไรขาดทุนของสถาบันการเงินที่มีปัญหา

นายบี่งกล่าวอีกว่า ธนาคารแห่งรัฐประสบความสำเร็จในการจัดการกับหนี้เสียในระบบได้ในปี 2541 ซึ่งตอนนั้น อัตราหนี้สูญสูงถึง 10.11% และในขณะนั้น เวียดนามยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายหนี้เสีย รวมทั้งสินทรัพย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ในปัจจุบัน มีเครื่องมือครบทุกอย่าง และทั้งระบบมีทรัพย์สินที่สามารถรองรับหนี้สูญได้อย่างไม่ลำบาก

หนี้มีปัญหาในระบบแบงก์ของเวียดนามได้ค่อยๆ สะสมพอกพูนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากเริ่มต้นด้วยวงเงินน้อยๆ อัตราเพิ่มในไตรมาสแรกของปี 2555 เป็น 47% เทียบกับ 64% ในปี 2554 กับ 41% ในปี 2553 และ 27% ในปี 2552 นายบี่งกล่าว

ปัจจุบัน ธนาคารที่ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐทุกแห่ง มีหนี้ไม่เคลื่อนไหวรวมกันคิดเป็น 2.76% ของทั้งหมด และของธนาคารเอกชนรวมเป็น 4.47% ผู้ว่าการ SBV กล่าว

การแถลงตัวเลขต่างๆ เหล่านี้ มีขึ้นวันเดียวกับที่กระทรวงความมั่นคงภายในจับกุมนายเหวียนดึ๊กเกียน (Nguyen Duc Kien) ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารเอเชียพาณิชย์การ (Asia Commercial Bank) แต่นายบี่งกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับธนาคารดังกล่าว ขอให้ผู้ฝากเงินวางใจได้

อย่างไรก็ตาม สื่อของทางการหลายสำนักรายงานในวันพุธว่า SBV ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารราว 5 ล้านล้านด่ง หรือ 240 ล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับการขาดสภาพคล่องที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการจับกุมนายแบงก์คนสำคัญนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น