.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การจับกุมนายเหวียนดึ๊กเกียน (Nguyễn Đức Kiên) อดีตประธานธนาคารเอเชียพาณิชย์การ (Asia Commercial Bank) และเจ้าของสโมสรฟุตบอล Hanoi ACB ในกรุงฮานอยในวันอังคาร 21 ส.ค.นี้ ยังคงไม่กระจ่างเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา ในขณะที่ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามแถลงว่า เป็นการกระทำความผิดที่ไม่เกี่ยวกับธนาคาร ACB ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นายเกียนถูกตั้งข้อหา “ทำการค้าขายผิดกฎหมาย” ที่เกี่ยวกับของบริษัทในเครือจำนวน 3 แห่ง ในกรุงฮานอย ซึ่งมีนายเกียนเป็นประธาน กาสรจับกุมจะไม่ส่งผลกระทบต่อแบงก์ ACB และระบบธนาคารของประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม หรือ SBV (State Bank of Vietnam) นายเหวียนวันบี่ง (Nguyễn Văn Bình) ระบุดังกล่าวในการตอบคำถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการประชุมรัฐสภาที่มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์แห่งชาติในวันเดียวกัน หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์
ผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐระบุดังกล่าว โดยอ้างรายงานการจับกุมที่กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงรักษาความมั่นคงภายใน ส่งถึงรัฐสภา ระหว่างสมัยประชุมที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
“การจับกุมไม่ได้เกี่ยวข้องกับธนาคารเอเชียพาณิชย์การ ดังนั้น ผู้ฝากเงินกับธนาคารแห่งนี้จึงสบายใจได้” นายบี่งกล่าว ทั้งยืนยันว่า แบงก์ชาติเวียดนามสอดส่องดูแลสภาพคล่อง และระบบการเงินของแบงก์พาณิชย์แห่งต่างๆ เป็นประจำ และยังพร้อมจะเข้าแทรกแซงให้การช่วยเหลือ ACB ในกรณีที่มีลูกค้าการแห่ไปถอนเงินฝากเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งเรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้น
รองประธานรัฐสภาเวียดนาม นางเหวียนถิกิมเงิน (Nguyễn Thị Kim Ngân) กล่าวในที่ประชุมว่า การจับกุมนายเกียนมีขึ้นตามรายงานของสำนักงานตำรวจสอบสวนสืบสวน เกี่ยวกับการทุจริตใน 3 บริษัทในเครือ คือ Công ty cổ phần đầu tư thương mại B&B (บริษัทร่วมทุนบีแอนด์บีการค้าและการลงทุน) Công ty cổ phần đầu tư ACB Hà Nội (บริษัทร่วมทุนการลงทุนเอซีบีฮานอย) กับ Công Ty TNHH Đầu Tư Tài Chính Á Châu Hà Nội (บริษัทฮานอยเอเชียการลงทุนและการเงิน) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นอีก
ตามรายงานของสื่อทางการ ทั้งสามบริษัททำธุรกิจด้านวิศวกรรมที่ปรึกษา และการก่อสร้างบ้านจัดสรร และธุรกิจเคเตอริ่ง หรือบริการด้านอาหาร-เครื่องดื่มสำหรับโรงแรม รายงายของตำรวจกล่าวว่านายเกียนอาจจะถูกดำเนินคดีอาญาฐาน “ค้าขายอย่างผิดกฎหมาย”
การจับกุมนายแบงก์ผู้นี้ ยังสะเทือนถึงวงการฟุตบอลของประเทศถึงแม้ว่าการแข่งขันวีลีก จะสิ้นสุดลงไปแล้วก็ตาม ซึ่งเจ้าตัวเป็นกรรมการคนหนึ่งในสมาคมฟุตบอลเวียดนาม หลังจากเมื่อปีที่แล้วขู่จะนำ 6 สโมสรแยกตัวออกไปตั้งลีกใหม่ จัดการแข่งขันเอง โดยกล่าวหาว่า สมาคมฟุตบอลแห่งชาติมีการผูกขาด และการทุจริต และเรียกร้องให้จัดการปฏิรูปในทันที
อย่างไรก็ตาม กรรมการสโมสรฟุตบอลเวียดนามหลายคนบอกกับเตื่อยแจ๋ว่า ยังงงๆ กับข่าวการจับกุมนายเกียน เพราะไม่เคยมีวี่แววใดๆ ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้.
.
.
. นายแบงก์อิทธิพล? ฮานอย (TTO) -- นายเหวียนดึ๊กเกียน (Nguyễn Đức Kiên) เกิดปี 2507 เรียนจบวิทยาลัยวิชาการทหาร กระทรวงกลาโหม (2523-2524) ก่อนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยวิชาการทหารซาลกามาเต (Zalkamate Military Technical University) ประเทศฮังการี (2524-2528) ในช่วง 10 ปีหลังจากนั้น เข้าทำงานในรัฐวิสาหกิจเวียดนามเสื้อผ้าและสิ่งทอ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม แต่ไม่เคยเป็นทหารในกองทัพประชาชน ในปี 2537 นายเกียนกับเพื่อน 3 คนก่อตั้งธนาคาร ACB ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน โดยในระหว่างปี 2537-2551 นายเกียนเป็นรองประธานคณะกรรมการบริหาร ก่อนจะครองตำแหน่งซีอีโอของแบงก์ในช่วงปี 2547-2549 กลายเป็นนายแบงก์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ตามรายงานของ ACB ในปี 2551 นายเกียนกับกรรมการอีกหลายคนได้ถอนตัวจากคณะกรรมการบริหารแบงก์ และจัดตั้งเป็น “คณะกรรมการผู้ก่อตั้ง” ขึ้นมาโดยให้อดีตผู้ร่วมก่อตั้งคนหนึ่งเป็นประธาน และนายเกียนเป็นรอง แต่ในปี 2552 นายเกียนได้รับเลือกตั้งเป็นประธาน และซีอีโอกลุ่มบริษัทเอเชียไฟแนนเชียลกรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2552 ก่อนจะถอนตัวออกจากคณะกรรมการผู้ก่อตั้ง นายเกียนกับภรรยา และน้องชายอีก 3 คน ร่วมกันถือครองหุ้น 9.71% ใน ACB ในนั้นเป็นหุ้นของนายเกียน 3.75% ของภรรยาคือ นางดั่งหง็อกลาน (Dang Ngoc Lan) อีก 4.11% ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันราว 1.9 ล้านล้านด่ง หรือ 91.2 ล้านดอลลาร์ ติดอยู่ในกลุ่มคนรวยหุ้น 20 อันดับแรกของประเทศ หลายปีมานี้ ธนาคาร ACB ได้เข้าลงทุนถือหุ้นไขว้ในธนาคารอีกหลายแห่ง รวมทั้งในธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (Exim Bank) ธนาคารเวียดแบงก์ (VietBank) และธนาคารดายอา (Dai A Bank) อีกด้วย นายเกียนเคยถือหุ้นในธนาคารเกียนลอง (Kien Long Bank) แต่ได้จำหน่ายออกไปทั้งหมดแล้ว นอกจากลงทุนในแบงก์ และสโมสรฟุตบอลแล้ว หลายปีมานี้ นายเกียนได้เข้าลงทุนในหลายธุรกิจ รวมทั้งบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่นของคาลเท็กซ์ในเวียดนาม และในบริษัทภัตตาคารเคเอฟซีเวียดนาม (KFC Vietnam Joint Venture) โดยมีตำแหน่งเป็นรองประธาน นายเกียนยังเป็นกรรมการบริหารบริษัทท่องเที่ยวอีก 2 แห่ง คือ โจะเลินการท่องเที่ยวและบริการ (Cholon Tourism Service Co) ในโฮจิมินห์ กับ บริษัทเทียนมีงการท่องเทียว (Thien Minh Tourism Joint Stock) ในฮานอย ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว บริษัทหลังนี้ค่อนข้างจะอื้อฉาวในกรณีซื้อขายกลุ่มโรงแรมวิกตอเรีย มูลค่า 45 ล้านดอลลาร์ ยังไม่ทราบว่านายเกียนถูกตั้งข้อกล่าวหากระทำผิดเกี่ยวกับธุรกิจแขนงใด. . |