พ่อแม่ปวดใจ สังคมส่ายหน้า คอซองตบกันสนั่นเว็บ

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คลิปนักเรียนหญิงทะเลาะตบตีกัน 2 ชิ้นโผล่ออกมาพร้อมกันในสัปดาห์นี้ ทำให้ประชาคมออนไลน์ในเวียดนามรู้สึกช็อกอีกครั้งหนึ่ง และพ่อแม่ผู้ปกครองได้ออกแสดงความคิดเห็น เรียกร้องให้ทางการเร่งแก้ไขให้หมดไป พร้อมทั้งโจษจันหาผู้รับผิดชอบ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น แต่ชาวเว็บในเวียดนามไม่ค่อยจะได้ยินเรื่องแบบนี้มานานข้ามปีแล้ว นับตั้งแต่กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมสั่งให้โรงเรียนเข้มงวดกวดขันกับเหล่านักเรียนจนถึงหลังเวลาเลิกเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องติดตามพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มที่มีปัญหา

อย่างน้อยที่สุดในช่วงเวลาหลายเดือนมานี้ ชาวเว็บก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวปรากฏเป็นข่าว จนกระทั่งในสัปดาห์นี้

คลิปชิ้นล่าสุดโผล่ออกมาตามเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามหลายแห่งในวันพฤหัสบดี 16 ส.ค.2555 เป็นคลิปนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 5 คน เข้ารุมทำร้ายนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่ง ทั้งตบ ทั้งทุบตี ทั้งเตะ และกระทืบ แล้วแต่จะนึกออก นอกจากนั้น ยังพยายามถอดเสื้อชิ้นใน “เหยื่อ” เพื่อหวังประจานอีกด้วย

คลิปนี้มีความยาวไม่ถึง 1 นาที และยังไม่ทราบสังกัดของนักเรียนทั้ง 6 คน แต่เนื้อหาของมันสะท้อนถึงการใช้ความรุนแรงในหมู่เยาวชนเวียดนาม ที่มีลักษณะรุนแรงยิ่งขึ้น แม้กระทั่งในหมู่เพศหญิงด้วยกันเอง

เพียง 4 วันก่อนหน้านั้น คลิปอีกชิ้นหนึ่งความยาว 6 นาทีเศษ โผล่ขึ้นมาในเว็บข่าวหลายแห่ง แสดงให้เห็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2 คน ใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกัน ทั้งตบทั้งตี ดึงผมกันและกัน จนไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนทั้งชาย และหญิงของแต่ละฝ่าย

ทั้งสองคนยังอยู่ในเครื่องแบบ ซึ่งทำให้ทราบว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนมัธยมฟุกหว่า อ.ฟุกหว่า (Phuc Hoa) จ.กาวบ่าง (Cao Bang) ทางภาคเหนือ ติดชายแดนจีน




การลงไม้ลงมือดำเนินไปจนกระทั่งทั้งคู่หมดแรงและเลิกราจากกัน ซึงปรากฏว่านักเรียนหญิงคนหนึ่งมีแผลแตกที่ศีรษะเลือดไหลโชก อีกคนหนึ่งมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า

“รัฐบาลจะต้องยับยั้งเรื่องนี้ให้ได้ ไม่งั้นก็อาจจะกลายเป็นค่านิยมใหม่ .. แนวโน้มที่คนในสังคมจะใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นกัน” นักท่องท่องเน็ตคนหนึ่งเขียนลงในเว็บไซต์เวียดนามเอ็กซ์เพรส เว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยม

อีกหลายคนลงความเห็นว่า ปัญหานี้จะต้องแก้ไขที่ครอบครัวอันเป็นต้นทางของสรรพสิ่งในสังคมนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่เด็กๆ อย่างใกล้ชิด มิให้ลูกๆ รู้สึกขาดความอบอุ่นทางจิตใจ และครูจะต้องใช้มาตรการเดิม คือ ติดตามดูแลเด็กหลังเลิกเรียนด้วย

ปีสองปีก่อนหน้านี้ สถานการณ์เด็กนักเรียนหญิงทำร้ายกันได้สร้างความปวดใจให้แก่สังคมเวียดนามไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสาเหตุพื้นฐานในการผิดพ้องหมองใจกันนั้นไม่ใช่เรื่องอื่น หากส่วนใหญ่เป็นการแย่งเพื่อนชายกัน

อย่างไรก็ตาม สมาชิกประชาคมออนไลน์หลายคนกล่าวว่า คลิปทั้งสองชิ้นนี้ล่าสุดเป็นเพียง “ตัวอย่างบางตอน” เท่านั้น หากเข้าไปในยูทิวบ์ และเสิร์ชหา ก็จะพบว่าเหตุการณ์นักเรียนหญิงทำร้ายร่างกายกันในเวียดนามนั้นยังมีอีกมากมายในช่วงต้นปีมานี้.