“พระมหาฯ-ผอ.ร.ร.” ยันภาพพระ-เณรร่วมวงเหล้า-พนัน “เรื่องเก่า” เผยกำลังถูกวัดฟ้องไล่ที่

ลำปาง - พระมหาฯ ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธิ์วิทยา ยันภาพพระ-เณรร่วมในวงเหล้า-การพนันกับเด็กนักเรียนเป็นเรื่องเก่า เกิดมานาน และตรวจสอบกันไปแล้ว ชี้เป็นงานที่เด็กนักเรียนที่จบไปแล้วจัดขึ้น แต่กลับถูกเจ้าอาวาสวัดป่าฯ นำส่งให้สื่อเผยแพร่ซ้ำ หลังใช้ประกอบการฟ้องไล่โรงเรียนออกจากวัด เตรียมให้ทนายดูข้อกฎหมายหาช่องฟ้องสื่อหาก ร.ร.เสียหาย

วันนี้ (8 ส.ค.) นางจุรีรัตน์ ใจแข็ง นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง ได้เข้าพบพระมหาประทิน ปริยัติตวุทโฒ ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธิ์วิทยา ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่ารวก และถูกพระครูกันตธรรมโกวิทย์ อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดป่ารวก อ.เมืองลำปาง นำภาพถ่ายที่ระบุว่ามีนักเรียน-พระที่เป็นผู้บริหารของโรงเรียนดังกล่าวประพฤติตัวไม่เหมาะสม ร้องเรียนผ่านสื่อ โดยมีนายเกรียงศักดิ์ รินทพล ทนายความ และนิติกรของวัด ร่วมรับฟัง และชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย

พระมหาประทิน ผอ.โรงเรียนฯ กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏต่อสื่อมวลชนในขณะนี้เป็นภาพที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งภาพที่เห็นเป็นภาพของนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้ว และในจำนวนนักเรียนเหล่านั้นก็จะมีทั้งนักเรียนหญิง ชาย พระ เณร ร่วมอยู่ด้วย เนื่องจากทางวัดเป็นโรงเรียนรวม ในวันเกิดเหตุทางโรงเรียนไม่ได้เป็นผู้พาไป แต่เป็นการนัดหมายของนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้ว และต้องการเลี้ยงฉลองกัน โดยมีครูเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งในขณะนั้นตนก็ไม่ทราบเรื่อง

จนกระทั่งทางวัดป่ารวก โดยเจ้าอาวาส (พระครูกันตธรรมโกวิทย์) ซึ่งเดิมเคยเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้มาก่อน ได้ยื่นเรื่องฟ้องขับไล่เพื่อให้โรงเรียนออกจากที่วัดแห่งนี้ได้มีการนำภาพดังกล่าวไปประกอบในชั้นศาล เพื่อแสดงให้เห็นว่าทางโรงเรียนมีความไม่เหมาะสม หลังจากนั้นวัด และโรงเรียนก็มีเรื่องกันมาตลอด

ส่วนในเรื่องภาพถ่ายดังกล่าว ตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว และเรื่องก็จบไปแล้ว แต่ตนก็รู้ว่าคงจะมีสักวันที่ภาพเหล่านี้จะต้องถูกนำเอาออกมาเผยแพร่ ซึ่งก็เป็นความเป็นจริง

เมื่อสอบถามว่าภาพที่เห็นเหมาะสมหรือไม่ พระมหาประทินกล่าวว่า หากเรามองเฉพาะผ้าเหลืองก็คงเห็นว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนกันแล้ว แต่ถ้าหากมองผ้าเหลืองในลักษณะของชาวบ้าน ของนักเรียนที่เรียนด้วยกัน ก็คงเป็นเรื่องปกติ หากรู้จักแยกแยะและปล่อยวางก็ไม่มีอะไร เพราะวันดังกล่าวก็มีครูที่ดูแลอยู่ด้วย

“แต่ที่เรื่องนี้กลับถูกนำออกมาเผยแพร่อีก ตนก็เห็นว่ามีความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องให้ทางทนายความตรวจสอบก่อนว่าหากทางวัดได้รับความเสียหาย ก็จะให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องต่อไป”

ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ รินทพล ทนายความ และนิติกรประจำโรงเรียนฯ กล่าวว่า การที่สื่อบางสำนักได้นำภาพเสนอออกไปโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายก่อนถือเป็นเรื่องที่แย่ เพราะจะทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหาย ขาดศรัทธาของประชาชน และผู้ปกครอง เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนไม่แบ่งแยก ซึ่งต้องปฏิบัติตามธรรมนูญโรงเรียน แต่นักเรียนทั่วไปก็มีเพียงส่วนน้อย คือปัจจุบันมีเพียง 20 คน จากทั้งหมดกว่า 300 ร้อยคน

ภาพที่ปรากฏเป็นภาพที่ผ่านมานานแล้ว และขณะนี้ก็อยู่ในชั้นศาล ได้มีการสอบสวนกันไปหมดแล้ว แต่สาเหตุที่ยังมีการนำมาออกสื่อก็เพื่อต้องการเพิ่มน้ำหนักให้แก่ทางวัดที่กำลังฟ้องขับไล่โรงเรียน

“ผมจะดูก่อนว่าภาพที่ออกไปนั้นใครเป็นผู้ให้มา ใครเป็นผู้นำเสนอ และโรงเรียนได้รับความเสียหายหรือไม่ ก่อนที่จะฟ้องร้องต่อไป”

ด้าน นางจุรีรัตน์ ใจแข็ง นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดลำปาง กล่าวว่า จากการสอบถามในเบื้องต้น ต้องแยกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนที่ปรากฏในภาพ คือ เป็นนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้ว ส่วนเรื่องพระ เณร ที่ปรากฏก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และมีการสอบสวนไปแล้ว จึงยังไม่มีเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างกำลังอยู่ในชั้นศาล คงต้องรอในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นลำดับต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 55 พระครูกันตธรรมโกวิทย์ อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดป่ารวก อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นภาพของพระผู้ใหญ่ และเณรของโรงเรียนวิสุทธิ์วิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนการกุศลที่ตั้งอยู่ภายในวัดป่ารวก ไปร่วมกิจกรรมกับนักเรียนบนแพ ที่เขื่อนกิ่วลม เช่น นั่งในวงการพนัน นั่งอยู่ในวงสุรา ซึ่งไม่เหมาะสม มาให้แก่สื่อมวลชน โดยอ้างว่าได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแต่เรื่องยังเงียบ