ซินหัว - เวียดนามยังคงรั้งตำแหน่งอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกพริกไทยอันดับต้นของโลก เมื่อเวียดนามได้ส่งออกพริกไทย 77,000 ตันในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2555 ทำรายได้ 532 ล้านดอลลาร์ แม้ปริมาณที่ส่งออกจะลดลงร้อยละ 69 แต่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1 เมื่อเทียบปีต่อปี สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม รายงานวันนี้ (14 ส.ค.)
สมาคมพริกไทยเวียดนาม (VPA) คาดการณ์ว่า เวียดนามจะสามารถส่งออกพริกไทยได้ประมาณ 110,000-115,000 ตันในปี 2555 ทำรายได้ราว 780 ล้านดอลลาร์ หากราคาพริกไทยยังคงสูงเช่นในเดือน ก.ค. นี้ ที่มีมูลค่ามากกว่า 7,000 ดอลลาร์ต่อตัน
ปัจจุบัน ราคาพริกไทยขายส่งในพื้นที่ปลูกพริกไทยหลักของประเทศ คือ ในพื้นที่ราบสูงภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงใต้ มีราคาอยู่ที่ 123,000-125,000ด่ง (5.9-7.2 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัม เพิิ่มขึ้นจาก 18,000-20,000 ด่ง (80-90 เซ็นต์) ต่อกิโลกรัม จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การผลิตพริกไทยของเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างมาก ในปี 2544 VPA มีสมาชิกเพียง 34 บริษัท และขยายเพิ่มเป็น 105 บริษัทในเดือน พ.ค. 2554 และในระหว่างช่วงเวลา 10 ปีนั้น ผลผลิตพริกไทยโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 3-5 ตัน ต่อพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ เป็น 9-10 ตันต่อ 6 ไร่ เทียบกับอินเดีย และอินโดนีเซียที่ผลิตได้ 0.2-0.3 หรือมาเลเซีย และบราซิลที่ผลิตได้ 1-2 ตัน
เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกพริกไทยอันดับต้นของโลก โดยมีสินค้าจำหน่ายใน 80 ประเทศ และดินแดน รวมทั้งในตลาดขนาดใหญ่ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง และเอเชีย โดยมีสัดส่วนปริมาณส่งออกในโลกราวร้อยละ 40-50
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาสังคม (MARD) ระบุว่า เวียดนามมีพื้นที่ปลูกพริกไทยประมาณ 312,500 ไร่ หรือร้อยละ 2.5 ของพื้นที่ปลูกพืชอุตสาหกรรม 5 ชนิด ที่มีจำนวนทั้งหมด 12,500,000 ไร่ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกพริกไทยกลับทำรายได้ได้มากกว่าถึงร้อยละ 8 ของมูลค่าส่งออกรวมของพืชอุตสาหกรรมที่เหลือ คือ สูงกว่ามูลค่าส่งออกชา 6 เท่า มากกว่ายาง 4 เท่า มากกว่ามะม่วงหิมพานต์ 3.8 เท่า และมากกว่ากาแฟ 2.6 เท่า ตามรายงานของ VPA
ประเทศผู้นำเข้าพริกไทยรายใหญ่ประกอบด้วย สหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อินเดีย อียิปต์ ปากีสถาน สเปน อังกฤษ และรัสเซีย.