.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - บรรดาผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.บี่งเฟื้อก (Binh Phuoc) พากันโล่งอก หลายคนกินไม่ได้นอนไม่หลับมานานข้ามสัปดาห์ หลังจากกระทรวงรักษาความมั่นคงสาธารณะ สั่งให้ตรวจหาผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีผู้ต้องขังสาววัย 29 ปีคนหนึ่ง เกิดตั้งครรภ์ และคลอดทารกเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ใครกระทำผิดทำให้นักโทษสาวท้อง จะถูกไล่ออก และถูกดำเนินคดี
วิธีการพิสูจน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ คือ การเจาะเลือดตรงพิสูจน์เทียบเคียงกับดีเอ็นเอของทารก
แต่แล้วสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากตำรวจสอบสวนได้พบข้อเท็จจริงใหม่ แต่ก็อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับบริหารเรือนจำ ลงไปจนถึงระดับล่างถูกลงโทษสถานหนักเบาต่างกันหลายคน นายตำรวจใหญ่แห่งกระทรวงดังกล่าว ออกให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร 31 ก.ค.นี้
หวี่ง-ถิ-ซยาง-เกี่ยว (Huynh Thi Giang Kieu) ต้องโทษในคดีค้ายาเสพติด และถูกตัดสินให้จำคุก 13 ปี แต่ได้รับลดหย่อนโทษเหลือ 8 ปีกับ 6 เดือน และเป็นนักโทษชั้นดี รับโทษมาเป็นปีที่ 3 เธอเก็บความลับเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้นานถึง 8 เดือนเศษ โดยใช้เสื้อคลุมเอาไว้มิด
จนกระทั่งประมาณ 20 วันก่อนคลอด ผู้คุมจึงเริ่มเอะใจ เพราะขอเบิกชุดนักโทษเบอร์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ความกระวนกระวายใจจึงเริ่มขึ้นในเรือนจำแห่งนี้ เมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของเธอแพร่สะพัดออกไป
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ “ฟ๊าบหลวด” (Phap Luat) หนังสือพิมพ์รายวันข่าวกฎหมาย และอาชญากรรม ทารกเกิดมาหนัก 2.9 กก. มารดามีสุขภาพแข็งแรงดี แต่ลูกสาวตัวน้อยต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม่ออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา กลับสู่เรือนจำ
และการตรวจพิสูจน์เพื่อหาตัวบิดาของเด็กกำลังจะเริ่มขึ้น หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว
ตามกฎหมายเวียดนาม ถ้าหากบิดาของเด็กเป็นสามีของนักโทษ ทุกอย่างไม่มีปัญหา ไม่กี่ปีมานี้ เรือนจำหลายแห่งยังจัดตั้งให้มี “มุมแห่งความสุข” เปิดโอกาสให้นักโทษที่เป็นสามีภรรยากัน อาศัย และนอนด้วยกันได้ เจ้าหน้าที่สมาคมทนายความในนครโฮจิมินห์กล่าวถึงเรื่องนี้
แต่ปัญหาก็คือ สาวนักโทษรายนี้ยังไม่ได้แต่งงาน และใครก็ตามที่ทำให้ตั้งครรภ์ขณะถูกคุมขัง ก็จะมีโทษรุนแรงตามกฎหมาย หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และถูกดำเนินคดีอาญาอีกทอด ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
แต่เรื่องนี้มีพลิกล็อก พล.ต.โห่แทงดี่ง (Ho Thanh Dinh) นายตำรวจผู้รับผิดชอบเรือนจำ แห่งกระทรวงความมั่นคงฯ กล่าวว่า กรณีนี้ ไม่มีผู้คุม หรือเจ้าหน้าที่เรือนจำคนใดเกี่ยวข้อง หากแต่บิดาของเด็กเป็นอดีตนักโทษคนหนึ่ง ที่รู้จักรักใคร่ชอบพอกับนักโทษสาวมาก่อน ถูกจำคุกในเรือนจำอีกแห่งหนึ่ง และเพิ่งจะพ้นโทษไปเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งสองฝ่ายนัดแนะพบปะ และแอบได้เสียกันในเช้าตรู่วันหนึ่ง เมื่อนักโทษสาวกับนักโทษอีกหลายสิบคนออกไปใช้แรงงานกรีดยางในสวนยางของเรือนจำ ซึ่งเป็นงานประจำเป็นต้นเหตุให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา
“เรื่องนี้เกิดขึ้นในมุมใดมุมหนึ่งของสวนยาง ซึ่งมีเนื้อที่ถึง 60 เฮกตาร์ (ราว 375 ไร่) ซึ่งยากในการสอดส่องดูแลให้ทั่วถึง” พล.ต.แทงดี่งกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายตำรวจแห่งกระทรวงความมั่นคงผู้นี้กล่าววา ถึงกระนั้น ก็จะมีการสอบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา และ พ่อของเด็กก็จะถูกลงโทษเช่นกัน ฐานล่วงละเมิดต่อผู้ต้องขังหญิงที่อยู่ภายใต้การควบคุม เนื่องจากทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวอีกว่า เวียดนามเคร่งครัดมากในการพิทักษ์ปกป้องผู้ต้องขังสตรี แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเกิดกรณีอื้อฉาวขึ้นหลายครั้ง
ปีที่แล้ว นักโทษประหารวัย 37 ปีผู้หนึ่งเกิดตั้งครรภ์ในห้องขังเดี่ยว เธอคลอดเองในนั้นและเกิดตกเลือด จนต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่การสอบสวน และการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพบว่า มีนักโทษชายคนหนึ่งช่วยเหลือ แอบเอาอสุจิบรรจุในขวดแก้วเล็กๆ ไปยื่นให้ และฝ่ายหญิงดำเนินการจัดแจ้งด้วยตัวเองเพื่อให้ตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เธอรอดพ้นโทษประหาร
ตามกฎหมายเวียดนาม นักโทษหญิงที่ต้องโทษประหารขณะตั้งครรภ์ จะถูกลดหย่อนโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพื่อให้เลี้ยงดูลูก
เรื่องแบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ในเรือนจำจังหวัดทางภาคเหนือ นักโทษสาวคดียาเสพติดวัย 33 ปีรายหนึ่งใช้ “เทคนิค” แบบเดียวกันนี้ เพื่อให้ตั้งครรภ์ และได้รับลดหย่อนโทษประหาร จนเป็นข่าวครึกโครม และครั้งนั้น มีเจ้าหน้าจำถูกลงโทษไปหลายคนฐานบกพร่องต่อหน้าที่.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - บรรดาผู้คุม และเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.บี่งเฟื้อก (Binh Phuoc) พากันโล่งอก หลายคนกินไม่ได้นอนไม่หลับมานานข้ามสัปดาห์ หลังจากกระทรวงรักษาความมั่นคงสาธารณะ สั่งให้ตรวจหาผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีผู้ต้องขังสาววัย 29 ปีคนหนึ่ง เกิดตั้งครรภ์ และคลอดทารกเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ใครกระทำผิดทำให้นักโทษสาวท้อง จะถูกไล่ออก และถูกดำเนินคดี
วิธีการพิสูจน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ คือ การเจาะเลือดตรงพิสูจน์เทียบเคียงกับดีเอ็นเอของทารก
แต่แล้วสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากตำรวจสอบสวนได้พบข้อเท็จจริงใหม่ แต่ก็อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับบริหารเรือนจำ ลงไปจนถึงระดับล่างถูกลงโทษสถานหนักเบาต่างกันหลายคน นายตำรวจใหญ่แห่งกระทรวงดังกล่าว ออกให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร 31 ก.ค.นี้
หวี่ง-ถิ-ซยาง-เกี่ยว (Huynh Thi Giang Kieu) ต้องโทษในคดีค้ายาเสพติด และถูกตัดสินให้จำคุก 13 ปี แต่ได้รับลดหย่อนโทษเหลือ 8 ปีกับ 6 เดือน และเป็นนักโทษชั้นดี รับโทษมาเป็นปีที่ 3 เธอเก็บความลับเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้นานถึง 8 เดือนเศษ โดยใช้เสื้อคลุมเอาไว้มิด
จนกระทั่งประมาณ 20 วันก่อนคลอด ผู้คุมจึงเริ่มเอะใจ เพราะขอเบิกชุดนักโทษเบอร์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ความกระวนกระวายใจจึงเริ่มขึ้นในเรือนจำแห่งนี้ เมื่อข่าวการตั้งครรภ์ของเธอแพร่สะพัดออกไป
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ “ฟ๊าบหลวด” (Phap Luat) หนังสือพิมพ์รายวันข่าวกฎหมาย และอาชญากรรม ทารกเกิดมาหนัก 2.9 กก. มารดามีสุขภาพแข็งแรงดี แต่ลูกสาวตัวน้อยต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม่ออกจากโรงพยาบาลในวันจันทร์ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา กลับสู่เรือนจำ
และการตรวจพิสูจน์เพื่อหาตัวบิดาของเด็กกำลังจะเริ่มขึ้น หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว
ตามกฎหมายเวียดนาม ถ้าหากบิดาของเด็กเป็นสามีของนักโทษ ทุกอย่างไม่มีปัญหา ไม่กี่ปีมานี้ เรือนจำหลายแห่งยังจัดตั้งให้มี “มุมแห่งความสุข” เปิดโอกาสให้นักโทษที่เป็นสามีภรรยากัน อาศัย และนอนด้วยกันได้ เจ้าหน้าที่สมาคมทนายความในนครโฮจิมินห์กล่าวถึงเรื่องนี้
แต่ปัญหาก็คือ สาวนักโทษรายนี้ยังไม่ได้แต่งงาน และใครก็ตามที่ทำให้ตั้งครรภ์ขณะถูกคุมขัง ก็จะมีโทษรุนแรงตามกฎหมาย หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็จะถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และถูกดำเนินคดีอาญาอีกทอด ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
แต่เรื่องนี้มีพลิกล็อก พล.ต.โห่แทงดี่ง (Ho Thanh Dinh) นายตำรวจผู้รับผิดชอบเรือนจำ แห่งกระทรวงความมั่นคงฯ กล่าวว่า กรณีนี้ ไม่มีผู้คุม หรือเจ้าหน้าที่เรือนจำคนใดเกี่ยวข้อง หากแต่บิดาของเด็กเป็นอดีตนักโทษคนหนึ่ง ที่รู้จักรักใคร่ชอบพอกับนักโทษสาวมาก่อน ถูกจำคุกในเรือนจำอีกแห่งหนึ่ง และเพิ่งจะพ้นโทษไปเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งสองฝ่ายนัดแนะพบปะ และแอบได้เสียกันในเช้าตรู่วันหนึ่ง เมื่อนักโทษสาวกับนักโทษอีกหลายสิบคนออกไปใช้แรงงานกรีดยางในสวนยางของเรือนจำ ซึ่งเป็นงานประจำเป็นต้นเหตุให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา
“เรื่องนี้เกิดขึ้นในมุมใดมุมหนึ่งของสวนยาง ซึ่งมีเนื้อที่ถึง 60 เฮกตาร์ (ราว 375 ไร่) ซึ่งยากในการสอดส่องดูแลให้ทั่วถึง” พล.ต.แทงดี่งกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายตำรวจแห่งกระทรวงความมั่นคงผู้นี้กล่าววา ถึงกระนั้น ก็จะมีการสอบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา และ พ่อของเด็กก็จะถูกลงโทษเช่นกัน ฐานล่วงละเมิดต่อผู้ต้องขังหญิงที่อยู่ภายใต้การควบคุม เนื่องจากทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวอีกว่า เวียดนามเคร่งครัดมากในการพิทักษ์ปกป้องผู้ต้องขังสตรี แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเกิดกรณีอื้อฉาวขึ้นหลายครั้ง
ปีที่แล้ว นักโทษประหารวัย 37 ปีผู้หนึ่งเกิดตั้งครรภ์ในห้องขังเดี่ยว เธอคลอดเองในนั้นและเกิดตกเลือด จนต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่การสอบสวน และการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพบว่า มีนักโทษชายคนหนึ่งช่วยเหลือ แอบเอาอสุจิบรรจุในขวดแก้วเล็กๆ ไปยื่นให้ และฝ่ายหญิงดำเนินการจัดแจ้งด้วยตัวเองเพื่อให้ตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เธอรอดพ้นโทษประหาร
ตามกฎหมายเวียดนาม นักโทษหญิงที่ต้องโทษประหารขณะตั้งครรภ์ จะถูกลดหย่อนโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพื่อให้เลี้ยงดูลูก
เรื่องแบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ในเรือนจำจังหวัดทางภาคเหนือ นักโทษสาวคดียาเสพติดวัย 33 ปีรายหนึ่งใช้ “เทคนิค” แบบเดียวกันนี้ เพื่อให้ตั้งครรภ์ และได้รับลดหย่อนโทษประหาร จนเป็นข่าวครึกโครม และครั้งนั้น มีเจ้าหน้าจำถูกลงโทษไปหลายคนฐานบกพร่องต่อหน้าที่.