xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามแจงกระทิงหมดแรง ไม่เกี่ยวยาสลบเกินขนาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่นำกระทิงที่กำลังสลบไสลออกจากบริเวณสนามบินฝูบ่าย (Phú Bài) จ.เถื่อเทียนเหว (Thừa Thiên- Huế)ในบ่ายวันอังคาร 24 ก.ค.2555 อีดกราว 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นกระทิงก็สิ้นลม ทางการจังหวัดออกแถลงในวันพุธนี้ว่ากระทิงเคราะห์ร้ายอ่อนเพลียเกินไป เครียดหนักจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและขาดน้ำ อันเป็นสาเหตุทำให้ถึงแก่ชีวิต ไม่ได้เกี่ยวกับยาสลบ แต่สื่อออนไลน์หลายแห่งยังกังขาต่อคำแถลงนี้. -- ภาพ: Dan Tri Online. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทิงดุตัวที่ไปโผล่ในบริเวณสนามบิน จ.เถื่อเทียนเหว (Thừa Thiên Huế) ในช่วง 2 วันมานี้ ไม่ได้ตายเพราะสัตวแพทย์ให้ยาสลบเกินขนาด แต่สิ้นลมเพราะเหนื่อยอ่อน เนื่องจากอยู่ในถิ่นที่ไม่เหมาะสม เครียดหนักจากเสียงรบกวน และที่สำคัญก็คือ ขาดน้ำ สำนักงานป่าไม้จังหวัดออกคำแถลงฉบับหนึ่งในเช้าวันพุธ 25 ก.ค.นี้ ปฏิเสธรายงานที่สื่อหลายแห่งระบุว่า ใช้ยาสลบมากเกินไปจึงทำให้สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เคราะห์ร้ายสิ้นลม

การยิงลูกดอกยาสลบมีจุดประสงค์เพื่อนำกระทิงไปยังปางช้างแห่งหนึ่ง เพื่อการดูแลรักษา และนำไปปล่อยกลับคืนสู่ถิ่นเดิมของมันเท่านั้น และเป็นปฏิบัติการโดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่นำโดย ดร.ฟานเหวียดเลิม ( Phan Việt Lâm) ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครโฮจิมินห์ ถูกต้องตามหลักวิชาการทุกประการ คำแถลงระบุ

อย่างไรก็ตาม กระทิงเคราะห์ร้ายตัวนี้ได้ออกจากป่าซึ่งเป็นถิ่นอาศัยตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เข้าสู่เขตเมือง ทำให้สัตว์เครียดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ถูกรบกวนด้วยเสียงเครื่องยนต์ และที่สำคัญอันเป็นสาเหตุที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ กระทิงอ่อนแรงมากเนื่องจากขาดน้ำติดต่อกันยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง เพราะบริเวณป่าละเมาะข้างสนามบินฝูบ่ายที่หลบซ่อน ไม่มีแหล่งน้ำ

ปฎิการ “ช่วยเหลือ” กระทิงตัวนี้เริ่มในเวลา 09.30 น.วันอังคาร 24 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโฮจิมินห์เดินทางถึงสนามบินนานาชาติฝูบ่าย และ ยิงยาสลบ 1 ครั้ง เพื่อควบคุมให้สงบ จนกระทั่งทำได้สำเร็จเวลาประมาณ 16.00 น.ก่อนจะขนย้ายไปยังปางช้างเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ แต่กระทิงอ่อนเพลียมาก ชีพจรเริ่มช้าลง แม้สัตวแพทย์จะใช้เครื่องช่วยหายใจก็ไม่สามารถฟื้นให้กลับคืนมาได้ กระทิงตายอย่างสงบในเวลาประมาณ 17.00 น. คำแถลงระบุ

กระทิงเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ใน “บัญชี B” ของรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ซึ่งได้ผลสรุปตรงกันว่า กระทิงสิ้นใจเพราะเหนื่อยอ่อน และขาดน้ำ ไม่ได้เกี่ยวกับยาสลบแต่อย่างใด การขาดน้ำยาวติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้สัตว์ขนาดใหญ่น้ำหนักราว 1.2 ตันไม่สามารถจะทนอยู่ได้

ทางการจังหวัดได้มอบหมายให้คณะนักวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์นครเหว รับผิดชอบในการฝังทำลายซากกระทิงทั้งตัวด้วยสารเคมีในจุดที่กำหนด และจัดเวรยามเฝ้ารักษาสถานที่เป็นเวลา 15 วัน ป้องกันการขโมยเนื้อ หนัง กระดูก หรือชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ อันเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนในกฎหมายการพิทักษ์สัตว์ป่า คำแถลงกล่าว
.
<bR><FONT color=#000033>กระทิงอาจจะหลบซ่อนในป่าละเมาะแห่งนี้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ 23 ก.ค.2555 และไม่ยอมออกไปไหน ซึ่งที่นี่ไม่มีน้ำดื่ม และกว่าปฏิบัติการยิงยาสลบจะเริ่มขึ้นได้ก็อีก 24 ชั่วโมง การขาดน้ำเป็นสาเหตุของการตาย ทางการ จ.เถื่อเทียนเหว (Thừa Thiên- Huế) ระบุในคำแถลงที่ออกในเช้าวันพุธ 25 ก.ค.นี้. -- ภาพ: Dan Tri Online. </b>
.
<bR><FONT color=#000033>ไม่ทราบว่ากระทิงหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะข้างๆ สนามบินนานาชาติแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อไร กว่าเจ้าหน้าที่ รปภ.จะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปรกติก็ตกค่ำวันจันทร์ 23 ก.ค. ปฏิบัติการช่วยเหลือช่วงกลางคืนไม่ได้ผล กว่าจะยิงยาสลบได้ก็จนเช้าวันอังคาร กระทิงเหนื่อยอ่อนเพราะขาดน้ำ อันเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ถึงแก่ชีวิต ทางการจังหวัดออกคำแถลงในเช้าวันพุธนี้. -- ภาพ: Dan Tri Online. </b>
.
 <bR><FONT color=#000033>หญิงสาวที่เห็นเหตุการณ์ชี้ไปที่ภาพกระทิงที่เสิร์ชในอินเตอร์เน็ต ในตอนค่ำวันอังคาร 24 ก.ค.2555 เพื่อยืนยันว่า วัวขนาดใหญ่ ที่ขวิดหญิงชราคนหนึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้น 1 วันนั้น คือสัตว์ป่าหายากชนิดนี้. -- ภาพ: Tuoi Tre Online.  </b>
.
ยังไม่มีใครอธิบายได้ว่า เพราะเหตุใดกระทิงหนุ่มซึ่งสูงเกือบ 2 เมตร จึงหนีออกจากป่าเข้าเมือง และเล็ดลอดสายตาของผู้คนไปจนถึงท่าอากาศยานนานาชาติในภาคกลางแห่งนี้ได้อย่างไร และตั้งแต่เมื่อไร

ตามรายงานของสื่อทางการ กระทิงได้ขวิดหญิงชราวัย 85 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตในหมู่บ้านใกล้เคียง ญาติไปพบศพในตอนเช้าวันอังคาร 23 ก.ค. และเข้าแจ้งความระบุว่า อาจจะเป็นวัวขนาดใหญ่ เนื่องจากทำให้เกิดแผลเหวอะบริเวณหน้าอกของผู้ตาย ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าเป็นกระทิง

จนกระทั่งตกเย็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานฝูบ่าย ได้สังเกตพบความผิดปกติในป่าละเมาะข้างสนามบิน และติดตามดูจึงพบสัตว์ป่าขนาดใหญ่ตัวนี้

หลังจากนั้น ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยกู้ภัยไปยังที่เกิดเหตุ ทุกฝ่ายตระหนักดีว่า เป็นสัตว์ป่าสงวนจึงไม่ยิงสังหาร และหาทางล่อให้ไปติดหล่มในแหล่งน้ำที่อยู่ไม่ไกลออกไป แต่ไม่ประสบความสำเร็จ กระทิงไม่ยอมออกจากแหล่งหลบซ่อน จนกระทั่งต้องมีการยิงยาสลบ เพื่อการขนย้ายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สื่อออนไลน์บางแห่งยังแสดงความกังขาต่อคำแถลงเกี่ยวกับการตายของกระทิงเคราะห์ร้าย ผู้อ่านข่าวออนไลน์จำนวนไม่น้อยก็แสดงความสงสัยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อสาเหตุการตายเพราะความอ่อนเพลีย เนื่องจากกระทิงเป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก ไม่น่าที่จะล้มตายง่ายๆ เช่นนั้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น