.
เสียมราฐ (รอยเตอร์) - รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตันได้บอกกับประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่าในวันศุกร์ (13 ก.ค.) ขอให้ยึดมั่นปฏิรูปเศรษฐกิจ และการเมืองต่อไป ในประเทศที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากร และเพิ่งจะเปิดตัวเองพ้นจากการปกครองด้วยระบอบทหารมายาวนานเกือบครึ่งศตวรรษ
“เราปรารถนาให้ท่านดำเนินการต่อไป พวกเราปรารถนาในเรื่องนี้มาก” นางคลินตันกล่าวขณะเจรจา ปธน.เต็งเส่ง ซึ่งเป็นอดีตนายพลในคณะปกครองทหารที่รัฐสภาเลือกขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลกึ่งพลเรือนเมื่อปีที่แล้ว
นับเป็นเวลา 15 เดือนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ปธน. เต็งเส่งได้เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจพม่า ปล่อยนักโทษการเมืองกว่า 670 คน อนุญาตให้สื่อต่างๆ มีเสรีภาพมากขึ้น ทำให้การชุมนุมประท้วงถูกกฎหมาย และเริ่มขบวนการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏต่างๆ
นางคลินตัน กับ ปธน.เต็งเส่งได้พบกันในงานประชุมภาคเศรษฐกิจที่เมืองเสียมราฐ กัมพูชาสองวันหลังจากสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร อนุญาตให้บริษัทอเมริกันเข้าลงทุนในพม่าได้ และให้บริการทางการเงินในประเทศนี้ได้
ผู้นำพม่ากล่าวระหว่างพิธีถ่ายภาพว่า “ข้าพเจ้ายินดีมากที่ได้เห็นความสัมพันธ์สองฝ่ายของเราพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และเรายินดีที่ประธานาธิบดีโอบามาผ่อนคลายการคว่ำบาตรลง”
“วันนี้ หลังจากเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษ พม่าได้เข้าสู่หนทางประชาธิปไตยในการสร้างประเทศโดยการส่งผ่านอย่างสันติ พม่ากำลังอยู่ในทางแยกที่ได้วิวัฒน์จากการปกครองโดยทหาร.. และในขณะนี้ กำลังมุ่งไปสู่ยุคแห่งประชาธิปไตยใหม่ ในความพยายามพัฒนาประเทศ” ผู้นำพม่ากล่าวตามเอกสารที่เตรียมไว้สำหรับเผยแพร่ในการประชุม
“จากการสถาปนารัฐบาลใหม่ขึ้นในพม่า ประชาชนพม่าต่างปรารถนาจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันแท้จริงในประเทศ” ปธน.เต็งเส่งกล่าวเป็นภาษาอังกฤษในตอนหนึ่ง
ถึงแม้จะมีการยกเว้นเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรก็ตาม แต่ ปธน.โอบามายังไม่ได้ยกเลิกทั้งหมด ยังคงเอาไว้เผื่อเอาไว้กรณีที่รัฐบาลพม่าอาจจะหวนกลับ ไม่เดินหน้าการปฏิรูป
นายโอบามากล่าวในวันพุธ ระบุให้บริษัทอเมริกันต้องเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ในความหวังที่จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสในพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งนี้ เป็นข้อมูลขององค์การเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International)
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ผู้หนึ่งเปิดเผยว่า นางคลินตันได้พบเจรจากับประธานาธิบดีพม่าเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ฝ่ายสหรัฐฯ ได้แสดงความห่วงใยต่อรายงานการจับกุมเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ และเจ้าหน้าที่องค์การต่างๆ ภายใต้ยูเอ็น ซึ่งมีรายงานหลายคนจะถูกดำเนินคดี
ระหว่างการแถลงข่าว นางคลินตันได้ยกย่องประธานาธิบดีพม่าว่า เป็นผู้นำที่ “นำประเทศไปไกลมากในระยะเวลาที่สั้นมาก”
แต่นางคลินตันก็ได้ย้ำถึงเห็นความสำคัญที่ประเทศนี้จะต้องปฏิรูปประชาธิปไตย และการปฏิบัติที่ดีทางธุรกิจ ซึ่งสำคัญต่อการเติบโตในระยะยาว.
(เก็บเนื้อความสำคัญจากรายงานของ Martin Petty กับ Janet Lawrence สำนักข่าวรอยเตอร์)
สัมพันธ์พัฒนาเร็ว AFP Photo
2
3
4
5
6