xs
xsm
sm
md
lg

ไปดูเวียดนามฆ่าฉลามตัดหู ตายมากมายก่ายกอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ไม่มีกฎหมายอะไรห้าม ฉลามจึงไม่ได้ต่างไปจากปลาทั่วไปที่ถูกล่าเป็นอาหารของมนุษย์ และ หู ของมันขายได้ราคาดี เมื่อยังมีคนกิน ก็จะมีคนล่าต่อไป. -- ภาพ: Tuoi Tre.</b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ภาพชุดตลาดปลาฉลามที่สื่อของทางการเวียดนามนำออกเผยแพร่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่ให้ชาวเน็ตอยู่ไม่ค่อยเป็นสุข เพราะอึดอัดใจ เนื่องจากเป็นภาพฉลามจำนวนมากถูกเข่นอย่างทารุณ เพื่อตัดเอาครีบของมันส่งขาย แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ผิดกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติอะไรก็ตามที

แต่ชาวประมงไม่ได้ติดเหมือนชาวเน็ต พวกเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษในการฆ่าฉลาม เพราะถือว่ามันเป็น “ตัวซวย” เพราะถ้าหากฉลามตัวโตติดอวนลาก ก็จะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องตัดอวนทิ้ง ซึ่งหมายถึง การเพิ่มต้นทุนมหาศาลในการออกจับปลาเที่ยวนั้นๆ หรือไม่ก็ต้องแล่นกลับเข้าฝั่งเพื่อเอาฉลามออกจากอวน

หากเป็นฉลามตัวไม่โตมากก็ง่ายหน่อย โดยสาวอวนขึ้นเรือแล้วจัดการตัด “หู” หรือครีบของมันเอาไว้ทั้งหมด แล้วโยนลงทะเลไปแบบสดๆ ปล่อยให้ตายไปเอง

ภาพที่ตลาดอานฝู (An Phú) เมืองอ่าวเล็กๆ ชายทะเลใน จ.กว๋างหงาย (Quảng Ngãi) จึงเป็นภาพที่สะใจชาวประมงเสียด้วยซ้ำ

หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋กล่าวว่า ที่นั่นเป็นตลาดหูฉลามใหญ่โตที่สุดในภาคกลางของประเทศ ครีบสดๆ ขายราคาตั้งแต่ 90-101 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ผู้ซื้อมีทั้งร้านอาหารท้องถิ่น และอีกกลุ่มหนึ่งซื้อเพื่อนำไปตากแห้งส่งจำหน่ายจีน ซึ่งจะได้ราคามากขึ้นอีกหลายเท่า

ในย่านเอเชียนั้น ซุปหูฉลามเป็นอาหารเหลาที่บ่งบอกฐานะของผู้ที่รับประทานได้ดีเสมอ ทั้งยังเชื่อกันว่า มันเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นยารักษาได้สารพัดโรค แต่เนื้อของฉลามกลับเป็นชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับความสนใจขายไม่ได้ราคา เพราะไม่อร่อย นำไปทำปลาหวานก็ไม่เข้าท่า เนื่องจากเนื้อเหนียว และยังมีกลิ่นคาวจัดอีกด้วย

ปฏิบัติการ “ฆ่าตัดหู” by Tuoi Tre

2

3

4

5

6

7

8
เนื้อของปลาฉลามที่ตลาดอานฝูงชั่งขายได้ราคาเพียง 20,000-25,000 ด่งต่อ กก.เท่านั้น หรือประมาณ 1 ดอลลาร์เศษๆ อีกนิดหน่อย

แต่การล่าฉลามก็ไม่เรื่องง่าย เพราะเป็นงานที่เต็มไปด้วยอันตราย แม้กระทั่งนำตัวมันขึ้นบนเรือแล้ว ฉลามก็ยังสามารถทำร้าย หรือฆ่าลูกเรือที่ไม่ระมัดระวังตัวได้

การออกล่าฉลามใน “ทะเลตะวันออก” แต่ละครั้งใช้เวลานานแรมเดือน ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายสูงยิ่ง และ “ฤดูฉลาม” ก็จะมีปีละ 5-6 เดือนระหว่าง ธ.ค.-พ.ค.เท่านั้น

แต่ความต้องหาร “ซุปหูฉลาม” ที่ไม่เคยเสื่อมคลาย ทำให้ฉลามถูกล่าอย่างไร้ขีดจำกัด หลายปีมานี้ กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติเกรงว่าพวกมันจะสูญพันธุ์ จึงพยายามรณรงค์ต่อต้านการกินหูฉลามของชาวเอเชีย แต่ก็ดูจะไม่ได้ผลอะไรมากมาย ปีที่แล้ว รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งหันหน้าออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกได้ออกรัฐบัญญัติ ห้ามนำชิ้นส่วนใดของปลาฉลามไปประกอบอาหาร และห้ามภัตตาคารร้านอาหารในรัฐนี้เสิร์ฟเมนูหูฉลามโดยอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ไกลออกไปจากฝั่งแคลิฟอร์เนียจนถึงแปซิฟิกตะวันตก และทะเลจีนใต้ ยังไม่มีอะไรคุ้มครองปลาชนิดนี้ เมื่อยังมีคนกิน ก็จะยังมีคนล่าต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น