xs
xsm
sm
md
lg

พรรคนโรดมรณฤทธิ์รวมตัวพรรคฟุนซินเปก ร่วมเลือกตั้งปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ (กลาง) ประธานพรรค NRP ขนาบข้างด้วยนายเนียก บุญชัย (ซ้าย) ประธานพรรคฟุนซินเปก ขณะกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงพนมเปญ วันที่ 24 พ.ค. ทั้งสองพรรคเห็นชอบที่จะรวมพรรคกันเพื่อรวมกลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้่นในปีหน้า .-- AFP PHOTO/Khem Sovannara.  </font></b>

เอเอฟพี - สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และพรรคการเมืองคู่แข่งเห็นชอบและลงนามร่วมกันในการรวมพรรควันนี้ (24 พ.ค.) เพื่อรวมตัวกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนราชวงศ์ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในปีหน้า

ข้อตกลงดังกล่าว ทำให้เจ้าชายของกัมพูชาที่ทรงเป็นหัวหน้าพรรค นโรดม รณฤทธิ์ (NRP) รวมตัวกับพรรคฟุนซินเปก (FUNCINPEC) ที่สนับสนุนราชวงศ์ ซึ่งพระองค์เคยทรงถูกลงมติขับออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคฟุนซินเปกในปี 2549 ในข้อกล่าวหายักยอกเงิน

พรรคฟุนซินเปกในปัจจุบัน เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชนกัมพูชา และการรวมพรรคครั้งนี้จะทำให้พรรคของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ เข้าร่วมเป็นพันธมิตร และทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซน

สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และนายเนียก บุญชัย ประธานพรรคฟุนซินเปก ระบุในแถลงร่วมว่า ทั้งสองฝ่ายได้แก้ไขความแตกต่างในการรวมพรรคเพื่อเข้าร่วมการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค.2556 โดยทั้งสองพรรคมี ส.ส.ในสภาพรรคละ 2 ที่นั่ง จากทั้งหมด 123 ที่นั่งในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2551

สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ระบุว่า การรวมพรรคครั้งนี้จะใช้ชื่อพรรคฟุนซินเปก และคาดว่าพระองค์จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานพรรคในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สอง ในพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหนุ ทรงถูกลงมติขับออกจากพรรคฟุนซินเปก ด้วยข้อกล่าวหายักยอกเงินจากการแอบขายสำนักงานใหญ่พรรค และหลังจากนั้นไม่นาน พระองค์ทรงก่อตั้งพรรค NRP ขึ้นมา

พระองค์ถูกตัดสินโทษจำคุกนาน 18 เดือนจากความผิดดังกล่าว และหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษ พระองค์ทรงตัดสินพระทัยออกจากเวทีการเมืองในปลายปี 2551 และกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งในปลายปี 2553 เพื่อรวมพลังกลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์.
‘คดีคอร์รัปชั่น’พัวพันจนท.ระดับสูงและธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง(ตอนแรก)
ครั้งหนึ่งคณะกรรมการอิสระปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของฮ่องกง (ไอซีเอซี) เคยมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของนครแห่งนี้ จากการเป็นแหล่งโสมมแห่งการทุจริต ให้กลายเป็นสถานที่ซึ่งมีการคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทว่าในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ ผลงานของหน่วยงานแห่งนี้ไม่ค่อยเข้าตาเอาเสียเลย อย่างไรก็ดี เวลานี้ ไอซีเอซี กำลังกระโจนเข้าสู่สมรภูมิที่ใหญ่มาก ในระดับเป็นสมรภูมิแห่งชีวิตของตนเองทีเดียว เมื่อประกาศศึกกับตระกูลกว็อก เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีฐานะร่ำรวยเงินทองเหลือล้น แถมยังตั้งข้อหาเอากับอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสอันดับ 2 ของรัฐบาลฮ่องกงว่ากระทำผิดในคดีเดียวกันอีกด้วย การไต่สวนพิจารณาคดีคราวนี้จึงไม่ใช่มีเพียงจำเลยผู้ทรงอำนาจอิทธิพลเหล่านี้เท่านั้นที่นั่งอยู่ในคอกจำเลย หากแต่ชื่อเสียงเกียรติภูมิของฮ่องกงอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น