ASTVผู้จัดการออนไลน์ - บริษัทซาบแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน JAS-39 “กริพเพน” กำลังจะเปลี่ยนระบบควบคุมของเรือหลวงจักรีนฤเบศรของราชนาวีไทยให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถปฏิบัติการร่วมกับเครื่องบินรบยุคที่ 4 อันทันสมัย กับเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าที่กองทัพอากาศไทยจัดซื้อเข้าประจำการได้ ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่สามารถปฏิบัติการร่วมกันได้
สื่อทางการเวียดนามที่เกาะติดความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ รายงานโดยอ้างคำแถลงฉบับหนึ่งที่บริษัทซาบ (SAAB) แห่งสวีเดน ออกเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซาบกำลังจะติดตั้งระบบควบคุม 9LV Mk4 ที่ทันสมัยล้ำยุคมูลค่า 26.7 ล้านดอลลาร์บนเรือบรรทุกเครื่องบินของราชนาวีไทย รวมทั้งระบบส่งข้อมูลเพื่อให้เรือสามารถปฏิบัติการร่วมกับฝูงบินกริพเพน กับเครื่องบินตรวจการณ์ และเตือนภัยล่วงแบบซาบ 340 “อีรีอาย” (Erieye) ที่ติดอุปกรณ์เรดาร์ทันสมัย ผลิตในสวีเดนเช่นกัน
เครื่องบิน SAAB 340 รวมอยู่ในแผนการจัดซื้อของกองทัพอากาศไทย และการติดตั้งระบบทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 หนังสือพิมพ์ออนไลน์เดิ๊ตเหวียด (Báo Đất Việt) รายงาน
ปัจจุบัน กองเรือรบแห่งราชนาวีของไทยยังไม่สามารถปฏิบัติการซิงโครไนซ์กับเครื่องบินของกองทัพอากาศได้ และปฏิบัติการร่วมผ่านระบบสื่อสารธรรมดาๆ เรือดำน้ำเก่าจากเยอรมนีที่ไทยจัดซื้อเข้าประจำการก็เช่นเดียวกัน ซึ่งดูจะเป็นจุดอ่อนสำคัญของกำลังรบทางเรือกับทางอากาศ
ไทยซื้อเรือหลวงจักรีนฤเบศรจากสเปน และได้รับมอบตั้งแต่ปี 2540 พร้อมเครื่องบินแฮริเออร์ “จั๊มพ์เจ็ต” รุ่นเก่าที่ซื้อจากอังกฤษจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน ปลดประจำการจนหมดแล้ว ขณะที่กองทัพอากาศไทยสั่งซื้อ JAS-39 เครื่องรบทันสมัยจากสวีเดนจำนวน 12 ลำ มูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท ได้รับล็อตแรกจำนวน 6 ลำ เมื่อปีที่แล้ว
เรือจักรีนฤเบศรเป็นเรือขนาด 11,400 ตัน ยาว 186 เมตร บรรทุกลูกเรือกับผู้โดยสารได้ 675 คน บรรทุกเครื่องบินรบที่ขึ้นลงระยะสั้นกับเฮลิคอปเตอร์แบบ S-70B ซีฮอว์ก (Seahawk) ได้ทั้งหมด 14 ลำ
เครื่องบิน JAS-39 ที่ไทยได้รับมอบล็อตแรกเป็นกริพเพน D แบบ 2 ที่นั่งจำนวน 4 ลำ และกริพเพน C ที่นั่งเดี่ยวอีก 2 ลำ แต่ในล็อตที่สองจะเป็น Gripen C ทั้ง 6 ลำ.
.
.