ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการบินเดินทางไปยังรัสเซียในวันพฤหัสบดี 26 เม.ย.นี้ เพื่อเตรียมรับมอบเครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์อีก 3 ลำ ที่รัสเซียจะส่งมอบให้ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ค. ซึ่งจะเป็นล็อตสุดท้ายที่สั่งซื้อจำนวน 12 ลำ ในปี 2553
สำนักข่าวกลาโหมรัสเซียรายงานเรื่องนี้ โดยอ้างแหล่งข่าวบริษัทโคซอมมอลสค์-ออน-อามูร์ (Komsomolsk-on-Amur) บริษัทลูกของซูคอย (Sukhoi) ซึ่งเป็นผู้ผลิต Su-30MK2V ให้แก่เวียดนาม ซึ่งปีที่แล้วส่งมอบให้เวียดนามจำนวน 8 ลำ
ตามรายงานในเว็บไซต์ Militarynews.ru ซูคอยจะต้องส่งมอบเครื่องบินรบรุ่นนี้ให้เวียดนามอีกจำนวน 4 ลำภายในปีนี้ตามกำหนด แต่หนึ่งลำได้ตกลงในวันที่ 28 ก.พ. ขณะขึ้นบินทดสอบในรัสเซีย ทำให้เหลือส่งมอบได้เพียง 3 ลำ ฝ่ายรัสเซียจะต้องนำเครื่องบินรุ่นอื่นทดแทนให้ ซึ่งยังไม่ทราบในรายละเอียดขณะนี้
ขณะที่แหล่งข่าวกล่าวก่อนหน้านี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เวียดนามจะได้รับเครื่องบินล้ำยุค Su-35 แทน อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแทนการจ่ายเป็นเงิน
เมื่อหลายปีก่อน เครื่องบิน Su-27UBK จำนวน 2 ลำ ที่กำลังนำไปส่งมอบให้เวียดนามเสียหายยับเยินเมื่อเครื่องบินบรรทุกลำเลียงของรัสเซียประสบอุบัติ และตกลงขณะบินขึ้นจากชานกรุงมอสโก ฝ่ายรัสเซียชดเชยให้เวียดนามด้วย SU-27SK จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นรุ่นที่ก้าวหน้ารุ่นที่เวียดนามสั่งซื้อ
ยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้ว่า รัสเซียจะชดเชยให้แก่ Su-30MK2 ลำที่ประสบอุบัติเหตุล่าสุดอย่างไร ปัจจุบัน รัสเซียสร้างเครื่อง Su-35 ขึ้นมาเพียง 6 ลำเท่านั้น เพื่อการทดสอบ เป็น Su-35 ดั้งเดิม 2 ลำ และ Su-35S รุ่นที่ก้าวหน้ากว่าอีก 4 ลำ คาดว่าจะเปิดสายการผลิตในปีหน้า
ปัจจุบัน บริษัทซูคอยกำลังผลิต Su-30MK2 อีกจำนวน 12 ลำ สำหรับอินโดนีเซียที่เซ็นซื้อเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่มีการเปิดสายการผลิต Su-30 เพิ่มเติมอีก
หลังจากส่งมอบทั้ง 3 ลำในล็อตนี้ จะทำให้กองทัพอากาศเวียดนามมี Su-30MK2 รุ่นใหม่ประจำการจำนวน 19 ลำ ในขณะที่รัสเซียหวังว่า จะจำหน่ายให้อีก 24 ลำ เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกัน หรือไม่เวียดนามอาจจะเจรจาเพื่อเปลี่ยนเป็น Su-35 จำนวนหนึ่งหรือทั้งฝูงได้
ตามรายงานของแหล่งข่าวทางทหาร เวียดนามกับรัสเซียทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธระหว่างกัน โดยฝ่ายเวียดนามจ่ายเป็นเงินสดเพียง 30% ของมูลค่า จำนวนที่เหลือจ่ายกันแบบการค้าต่างตอบแทน หรือบาร์เตอร์เทรด ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นสินค้าการเกษตร.
