เอเอฟพี - อดีตผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจต่อเรือยักษ์ใหญ่ที่สร้างหนี้เป็นจำนวนมหาศาล และส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนในเวียดนามได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในวันนี้ (27 มี.ค.) ในความผิดกระทำการฝ่าฝืนกฎระเบียบของรัฐ
กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือของประเทศ หรือ วีนาชิน (Vinashin) เกือบล้มละลายเมื่อปีก่อนด้วยมูลค่าหนี้ที่สูงกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ ในเหตุอื้อฉาวที่สั่นสะเทือนวงการการเมืองของเวียดนาม ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้นักลงทุนเกรงว่าความอื้อฉาวนี้จะขยายวงกว้างไปยังบริษัทอื่นๆ ของรัฐ ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ
ตามการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายฟัมแท็งบี่ง (Pham Thanh Binh) อดีตประธานคณะกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ของวินาชิน และผู้บริหารอีก 8 คน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในเดือน พ.ย.
ผู้สื่อข่าวระบุว่า จำเลยทั้ง 9 คน ถูกนำตัวขึ้นศาลในนครหายฟ่อง เมืองท่าทางเหนือของประเทศ ตั้งแต่เช้ามืด ภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นหนา และประธานศาล นายเจิ่น วัน เงียม กล่าวในวันแรกของการเริ่มต้นพิจารณาคดีที่คาดว่าจะสรุปผลในวันศุกร์ว่า จำเลยเจตนาละเมิดกฎระเบียบของรัฐด้านการจัดการทางเศรษฐกิจ และหากพิพากษาว่ามีความผิด อดีตผู้บริหารเหล่านี้จะต้องได้รับโทษจำคุกสูงสุดคนละ 20 ปี
ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 9 คน อยู่ในความควบคุมตั้งแต่ถูกจับกุมในเดือน ส.ค.2553 และรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในยังได้ออกหมายจับอดีตผู้บริหารระดับสูงอีก 2 คน ที่ยังคงหลบหนี
.
.
คดีความนี้นับเป็นแรงกดดันต่อนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ที่เป็นผู้แต่งตั้งและมีความใกล้ชิดกับนายฟัม แท็ง บิ่ง ผู้บริหารอื้อฉาวรายนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่การสืบสวนเกี่ยวกับการสูญเงินเป็นจำนวน มากกว่า 43 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินทุนส่วนใหญ่สูญหายไปกับโครงการเพื่อการพัฒนาเรือโดยสารความเร็วสูง และโครงการโรงไฟฟ้าที่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ในเดือน ธ.ค.บริษัท วินาชิน ผิดนัดผ่อนชำระเงินงวดแรกจำนวน 60 ล้านดอลลาร์ ที่กู้ธนาคารเครดิตสวิส รวมทั้งหมด 600 ล้านดอลลาร์ ในปี 2550 และรัฐบาลเวียดนาม ระบุว่า ไม่มีผู้นำทางการเมืองคนใดจะถูกลงโทษจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัท วินาชิน และบริษัทอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างใหม่