เสื้อสกรีนลาย "ซูจี" สินค้ายอดฮิตในพม่า

เอเอฟพี - หากใช้ยอดขายเสื้อยืดกรีนลายนางอองซานซูจีเป็นบรรทัดฐาน นายฉ่วย ยี นักธุรกิจชาวพม่าคิดว่าความคืบหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยในพม่าอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว

นายฉ่วย ยี เจ้าของธุรกิจผลิตเสื้อยืดพิมพ์ลายกำลังเร่งผลิตเสื้อยืดสกรีนลายรูปภาพนางอองซานซูจีและนายพลอองซานให้ทันกับความต้องการของลูกค้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดอันเข้มงวดในประเทศ

"ก่อนนี้ คุณจะไม่สามารถพูดคุยกันถึงเรื่อง "The Lady" ได้อย่างเปิดเผย หรือแม้แต่ขายของใช้ต่างๆ ที่เชื่อมโยงไปถึงนางอองซานซูจีได้เลย" นายฉ่วย ยี เจ้าของร้านวัย 56 ปี กล่าว พร้อมระบุว่า เสื้อยืดพิมพ์ลายเหล่านี้เป็นสินค้าขายดีที่สุด

เสื้อคุณภาพต่ำที่ตั้งราคาขายอยู่ที่ตัวละ 1-2 ดอลลาร์ และผลิตกันออกมามากกว่า 3,000 ตัวต่อวัน นายฉ่วย ยี ระบุว่า ด้วยกิจการที่ก้าวหน้าเช่นนี้ เขาฝันที่จะได้สร้างอาณาจักรทางธุรกิจของเขาในเวลาอันใกล้ และร้านเล็กๆ ของนายฉ่วย ยี ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีตำรวจเพียงไม่กี่เมตร ในประเทศที่ทางการมักเข้าปราบปรามทุกสัญญาณที่แสดงถึงการเห็นต่างทางการเมือง ทำให้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของเขาเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ

ด้านภรรยาของนายฉ่วย ยี วุ่นอยู่กับจักรเย็บผ้าผลิตธงพรรค NLD ขนาดเล็ก สำหรับติดบนเสื้อยืด ส่วนคนงานอีก 4 คน นั่งบนพื้นใช้อุปกรณ์ซิลค์สกรีนพิมพ์ภาพลงบนเสื้อยืดสีสดรอลูกค้าที่เป็นพ่อค้ามารับซื้อต่อ และนอกจากลูกค้าชาวพม่าแล้ว ยังมีลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบนางอองซานซูจีด้วยเช่นกัน

ใบหน้าของนางซูจีในเวลานี้สามารถพบเห็นได้บนเสื้อยืดที่ประชาชนผู้สนับสนุนพรรค NLD สวมใส่ต้อนรับนางซูจีที่เดินทางรณรงค์หาเสียงหรือระหว่างเข้าร่วมชุมนุมฟังการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 เม.ย. นี้

นอกจากยอดขายเสื้อยืดจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ยังมี โปสเตอร์ และพวงกุญแจ ที่ขายดีเช่นกัน รูปภาพของแกนนำฝ่ายค้านยังถูกติดอยู่ตามร้านน้ำชา ร้านอาหาร หรือแม้แต่ข้างถนน ขณะเดียวกันภาพยนตร์เรื่อง The Lady ที่คัดลอกอย่างผิดกฎหมาย ยังมีวางขายอยู่เต็มตามถนนสายๆ ต่างในนครย่างกุ้ง

ภายในเมืองเอกของนครย่างกุ้ง สามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากตามถนนสายต่างๆ ห้องพักโรงแรมเกือบทุกแห่งถูกจองเต็ม และประชาชนหวาดกลัวน้อยลงที่จะหารือเรื่องการเมืองในที่สาธารณะ

"ยังมีอีกหลายสิ่งที่จำเป็นต้องปฏิรูป แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็คืบหน้าไปทีละน้อย" นายฉ่วย ยี กล่าว พร้อมระบุว่า เขารู้สึกสบายใจในการทำธุรกิจของเขาในตอนนี้ที่เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง แม้การใช้ชีวิตยังคงยากลำบากอยู่ในด้าน แต่ก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะขายของได้อย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องกลัวที่จะถูกจับกุม

"ผมหวังว่าวันหนึ่งทุกคนในพม่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย มีอิสระที่จะทำงานและเลือกสิ่งที่พวกเขาต้องการในชีวิต ประเทศของเรายากจนมาก แต่ผมหวังว่าเราจะร่ำรวยขึ้นเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ" นายฉ่วย ยี กล่าว.