xs
xsm
sm
md
lg

เขมรโชว์ตัวเลข ปีที่แล้วประชาชนรวยขึ้นเป็นกอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>คนงานชาวเขมรทำงานที่ไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ในภาพวันที่ 2 ส.ค.2554 ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราสูง ทางการกล่าวว่าปีเดียวกันนี้ผลผลิตมวลรวมภายในเติบโตถึง 7% ทำให้ชาวเขมรเกือบ 14 ล้านคนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็น 909 ดอลลาร์เทียบกับ 830 ดอลลาร์ในปี 2553 นอกจากนั้นกัมพูชากำลังจะเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันอีกแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลได้ขีดเส้นให้บริษัทผู้ลงทุนต้องนำขึ้นมาใช้ให้ได้ภายในปลายปีนี้ แต่อนาคตก็ยังคงอึมครึม. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการกัมพูชา กล่าวว่า ปี 2554 ที่ผ่านมา ชาวกัมพูชามีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีสูงขึ้นเป็น 909 ดอลลาร์ (28,179) ในขณะที่ผลผลิตมวลรวมประชาชาติขยายตัว 7% มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 12,937 ล้านดอลลาร์ และ อัตราความยากจนลดลงเหลือประมาณ 26%

นางแมนซัมออน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฝ่ายกิจการสังคมและสตรี ระบุดังกล่าวในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของกระทรวงสวัสดิการสังคม ทหารผ่านศึกและการฟื้นฟูเยาวชน ที่จัดขึ้นตอนเช้าวันพฤหัสบดีที่ 1 มี.ค.ศกนี้ ในกรุงพนมเปญ สำนักข่าวของรัฐบาลกล่าว

เศรษฐกิจกัมพูชาขึ้นต่อกับการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปซึ่งทำรายได้ให้แก่ประเทศมากที่สุด ถัดไปเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวกับการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์การเกษตร และรายได้เป็นเงินสกุลต่างประเทศจากโครงการลงทุนของต่างประเทศ

ตามตัวเลขของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ในปี 2533 จีดีพีของกัมพูชามีมูลค่ารวมประมาณ 11,300 ล้านดอลลาร์ และ รายได้ต่อหัวประชากรประมาณ 830 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 90 ของชาวกัมพูชาเกือบ 14 ล้านคนก็ยังประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งมีรายได้ต่ำกว่าวันละ 1 ดอลลาร์ และ ยังมีชีวิตอยู่ต่ำกว่าขีดแห่งความยากจนขององค์การสหประชาชาติ
.
<bR><FONT color=#000033>นายเกียตชน รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน  (กลาง) เข้าร่วมพิธีทดสอบระบบซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (Cambodia Stock Exchange) อาคารคานาเดียทาวเวอร์กรุงพนมเปญวันที่ 12 ม.ค.2555 หลังจากเลื่อนมาหลายครั้ง กัมพูชาเปิดตลาดหุ้นในเดือน ส.ค.2554 แต่ยังไม่มีบริษัทจดทะเบียน ทางการกำลังเตรียมการให้รัฐวิสาหกิจชั้นนำจำนวนหนึ่งเข้าประเดิมและเตรียมการกำหนดเปิดการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายตัวในอัตราสูง. --  REUTERS/Samrang Pring. </b>
<bR><FONT color=#000033>ชายหนุ่มพนมมืออธิษฐานหลังทำบุญตักบาตรในชุมชนริมทางรถไฟกรุงพนมเปญ ในภาพวันที่ 16 ก.พ.2555 ทางการกล่าวว่าเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวถึง 7% ในเมื่อปีที่แล้ว จากการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ขยายตัว อุตสาหกรรมนี้จ้างแรงงานท้องถิ่นราว 300,000 คน และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าอีกกว่า 2 ล้าน ซึ่งทำให้ชาวเขมรเกือบ 14 ล้านคนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็น 909 ดอลลาร์. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. </b>
<bR><FONT color=#000033>เด็กหญิงชาวเขมรในกรุงพนมเปญสวมหมวกแบบชาวเวียดนามยิ้มให้กล้องเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2555 เศรษฐกิจประเทศนี้ขยายตัวต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ ทางการกล่าวว่าอัตราการเติบโตสูงถึง 7% ในปี 2554 ซึ่งทำให้ประชาชาชนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีสูงขึ้นและอัตราความยากจนลดลงเหลือเพียง 26% แต่ในชีวิตจริงนั้น ร้อยละ 90 ของชาวเขมรเกือบ 14 ล้านคนซึ่งประกอบอาชีพการเกษตร ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ใต้ขีดความยากจนขององค์การสหประชาชาติ. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.</b>
.
ตามตัวเลขขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ไม่กี่ปีมานี้มีชาวเขมรนับแสนคนถูกขับไล่ออกจากที่ดินทำกิน และถิ่นที่อยู่อาศัยมานานนับชั่วคน ซึ่งตกไปอยู่ใต้สัมปทานของนักลงทุนเพื่อการพัฒนาด้านต่างๆ ในนั้นมีนับหมื่นคนที่กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากไม่ได้รับค่าชดเชย

เดือน ก.พ.2548 บริษัทร่วมทุนที่นำโดยเชฟรอนคอร์ป (Chevron Corp) แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศการพบน้ำมันดิบในแปลงสำรวจอ่าวไทยนอกชายฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ และรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ขีดเส้นให้นำน้ำมันขึ้นมาใช้หยดแรกในปลายปี 2555 นี้

แต่เจ้าหน้าที่ขององค์การปิโตรเลียมแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในเดือน ก.พ.ปีนี้ว่ากลุ่มผู้ลงทุนยังไม่สามารถผลิตน้ำมันได้ในปีนี้ และกำลังศึกษาความคุ้มของการลงทุนในการนำน้ำมันขึ้นมาใช้ประโยชน์

ในขณะที่กัมพูชากำลังจะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายฝ่ายได้แสดงความวิตกว่า ประเทศนี้อาจจะ “ต้องคำสาปน้ำมัน” (Oil Curse) รายได้จะตกไม่ถึงมือประชาชนจากการคอร์รัปชันที่แผ่ลามในหมู่ผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น