xs
xsm
sm
md
lg

รายงานระบุ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ในพม่า ไม่ได้รับการรักษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>เภสัชกรเตรียมยาให้กับผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่คลินิคของ MSF ในนครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 21 ก.พ. รายงานระบุว่า ประชาชนหลายหมื่นคนในพม่ามีชีวิตอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากขาดแคลนเงินทุนที่ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV และวัณโรค. --REUTERS/Soe Zeya Tun.  </font></b>

เอเอฟพี - องค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศ ระบุ วานนี้ (22 ก.พ.) ว่า การตัดเงินช่วยเหลือจากต่างชาติส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาวะวิกฤตการติดเชื้อ HIV ในพม่า ที่ประชาชนหลายหมื่นคนถูกปฏิเสธเข้ารับการรักษา

องค์การแพทย์ไร้พรมแดน หรือ MSF ระบุว่า มีประชาชนได้รับการดูแลรักษาเพียง 1 ใน 3 จากทั้งหมด 120,000 คน ที่จำเป็นต้องได้รับยาต้านรีโทรไวรัส ที่ใช้รักษาภาวะติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะเอชไอวีซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ ขณะเดียวกัน มีประชาชนมากกว่า 20,000 คน เสียชีวิตในแต่ละปีเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลรักษา

นายปีเตอร์ พอล เดอ กรูต์ หัวหน้า MSF ประจำพม่า กล่าวว่า ช่องว่างระหว่างผู้ที่ได้รับการรักษากับไม่ได้รับการรักษานั้นกว้างขึ้นจนไม่สามารถยอมรับได้ และเตือนว่า สถานการณ์เช่นนี้จะย่ำแย่ลงอีกหากไม่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือเพิ่มเติม

“สถานการณ์ในพม่าอาจเลวร้ายยิ่งขึ้น แต่หากเราได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้นรวมกับการเข้าถึงที่ดีกว่านี้ เราอาจลดช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้ได้” หัวหน้า MSF ประจำพม่า กล่าว

หน่วยงานช่วยเหลือที่มีสำนักงานในกรุงปารีส กล่าวว่า การยกเลิกให้การสนับสนุนของกองทุนโลกเพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ วัณโรค และ มาลาเรีย ทำให้เงินทุนมีอยู่อย่างจำกัด และสามารถช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยได้อีกแค่ 40,000 คน

กองทุนโลกที่ได้รับบริจาคเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลและภาคเอกชนต่างๆ เป็นผู้ให้ทุนรายใหญ่ของโครงการดังกล่าวเพื่อรักษาโรคที่เป็นเป้าหมายทั้ง 3 โรคในทั่วโลก

“มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้ ที่คุณต้องบอกใครสักคน ว่า คุณยังไม่เป็นอะไรมาก โปรดกลับมาอีกครั้งในภายหลัง บางทีเมื่อคุณป่วยมากกว่านี้เราถึงจะสามารถรักษาให้คุณได้” นายเดอกรูต์ กล่าว
<br><FONT color=#000033>เภสัชกรส่งยาให้กับผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่มารับยาที่คลินิคของ MSF ในนครย่างกุ้ง  MSF ระบุว่า มีประชาชนได้รับการดูแลรักษาเพียง 1 ใน 3 จากทั้งหมด 120,000 คน ที่จำเป็นต้องได้รับยาต้านรีโทรไวรัส. --REUTERS/Soe Zeya Tun.  </font></b>
<br><FONT color=#000033>ชายชาวพม่านั่งอยู่ข้างแผงขายถุงยางอนามัยแห่งหนึ่งในนครย่างกุ้ง การใช้ถุงยางอนามัยช่วยลดความความเสี่ยงการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้. --REUTERS/Soe Zeya Tun.  </font></b>
รัฐบาลทหารเผด็จการของพม่าให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายทางทหาร มากกว่าด้านสาธารณสุข ขณะที่รัฐบาลกึ่งพลเรือนชุดใหม่ที่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อปีก่อนมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนเงินทุนด้านสาธารณสุขมากขึ้น ซึ่ง MSF ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพ และการปฏิรูปการเมืองที่ผ่านมาของพม่าเพิ่มความหวังที่จะมีการเพิ่มเงินทุนช่วยเหลือให้กับประเทศแห่งนี้

MSF เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศแก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อ HIV และโรควัณโรค เป็นลำดับแรกของบรรดาประเทศผู้บริจาคชั้นนำต่อพม่า ที่จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาราว 560 ดอลลาร์ต่อผู้ติดเชื้อ HIV หนึ่งรายในแต่ละปี และโรควัณโรคเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อ HIV

รายงานของ MSF ระบุว่า พม่ามีอัตราความชุกของภาวะเชื้อดื้อยาสูง ส่งผลให้การรักษาโรคยากลำบากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายแพงมากขึ้น และในแต่ละปีมีประชาชนติดเชื้อ HIV เพิ่มใหม่ราว 9,300 คน และมีเพียง 300 คน ที่ได้รับการรักษา
กำลังโหลดความคิดเห็น