xs
xsm
sm
md
lg

ประเทศผู้บริจาคเรียกร้องเวียดนามปฏิรูปเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง (กลาง) ฟังการประชุมผ่านล่าม ขณะนางวิคตอเรีย กวากวา (ขวา) ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนามกล่าวในระหว่างการประชุมที่ปรึกษาประจำปี ระหว่างเวียดนามและประเทศผู้บริจาค ในกรุงฮานอย วันนี้ 6 ธ.ค. โดยผู้นำเวียดนามให้คำมั่นที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนการธนาคารและรัฐวิสาหกิจ. --AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </font></b>

เอเอฟพี - ประเทศผู้บริจาคของเวียดนาม ในวันนี้ (6 ธ.ค.) ได้กระตุ้นเวียดนามให้เดินหน้าความพยายามปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศและเตือนว่าเวียดนามจะปรับปรุงปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิ หรือเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จทางเศรษฐกิจของประเทศ

ประเทศผู้บริจาค ระบุว่า เวียดนาม ที่ในช่วงต้นปี 2554 ได้มุ่งความสนใจจากการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจมาสู่การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในเอเชียถึงร้อยละ 20 มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ

“จะเป็นการง่ายกว่ามากสำหรับเวียดนาม หากดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างของประเทศในตอนนี้ มากกว่าที่จะปรับโครสร้างหลังได้รับผลกระทบเพราะเกิดภาวะวิกฤตแล้ว” นางวิคตอเรีย กวากวา ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนาม กล่าวในการประชุมประเทศผู้บริจาค ในกรุงฮานอย

นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2554 เป็นต้นมา ผู้บัญญัติกฎหมายของประเทศได้พยายามที่จะรักษาเสถียรภาพหลังอุปสรรคหลายประการรุมเร้า ทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง การขาดดุลการค้า ค่าเงินด่งอ่อนตัว และภาวะเงินเฟ้อขยายตัวสูง

ในที่ประชุมยังระบุว่า เวียดนามจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปฏิรูปภาคธนาคาร แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปรับขั้นตอนการบริหารให้ง่ายขึ้น และต่อสู้กับปัญหาการทุจริต นอกจากนั้นประเทศผู้บริจาคยังได้เตือนว่ารายงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ของเวียดนามอาจกระทบต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย

ทูตจากนอร์เวย์ กล่าวว่า การปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานได้ทำลายทั้งความน่าเชื่อถือในระดับประเทศด้านสิทธิมนุษชน และการพัฒนาสังคม-เศรษฐกิจในระยะยาวของเวียดนาม

องค์กรนิรโทษกรรมสากล ระบุว่า นักวิจารณ์การเมืองอย่างสันติหลายสิบคนถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลานานนับตั้งแต่เวียดนามเริ่มปราบปรามการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีในปลายปี 2552

การประท้วงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในเวียดนาม แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการจัดชุมนุมประท้วงขึ้นหลายครั้งในประเด็นตั้งแต่ปัญหาพิพาทพรมแดนกับจีนไปจนถึงความขัดแย้งเรื่องที่ดินในท้องถิ่นกับทางการ แต่การชุมนุมบางครั้งก็ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลาย

“การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรที่จะถูกลงโทษ แต่ควรได้รับการสนับสนุน” ทูตจากนอร์เวย์ กล่าว และว่า สิ่งนี้เป็นมุมมองของประเทศผู้บริจาค เช่น นอร์เวย์ แคนาดา นิวซีแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์

นายกรัฐมนตรี เหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนาม กล่าวว่า รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนและประชาธิปไตย แต่เตือนว่าสิทธิบางประการต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และว่ารัฐบาลพร้อมที่จะเปิดเจรจาในประเด็นเหล่านี้กับประเทศผู้บริจาคเพื่อความเข้าใจร่วมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น