เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ศาลของเวียดนาม ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ในเวียดนามวันนี้ (1 ก.ย.) ได้ลดโทษจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐที่เป็นศูนย์กลางของคดีทุจริตอื้อฉาวที่ส่งผลให้ญี่ปุ่นระงับการช่วยเหลือ
นายหวีง หง็อก สี (Huynh Ngoc Sy) เดิมถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในการพิจารณาคดีที่นครโฮจิมินห์เมื่อเดือน ต.ค.2553 ซึ่งนายสียังคงให้การว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์
นายสี ถูกกล่าวหาว่า รับสินบนเป็นจำนวนสูงถึง 262,000 ดอลลาร์ ในปี 2546 จากบริษัทที่ปรึกษาในญี่ปุ่นซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับโครงการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมือง ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากญี่ปุ่น
นายสี มีตำแหน่งรองผู้อำนวยการกรมคมนาคมขนส่งนครโฮจิมินห์ในขณะนั้น และเป็นหัวหน้าทีมที่รับผิดชอบโครงการสร้างถนนสายดังกล่าว
“ศาลตัดสินลดโทษจำคุกนายสี เหลือเพียง 20 ปี” เจ้าหน้าที่ศาลจากนครโฮจิมินห์ กล่าว
หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ รายงานว่า ในการรับฟังการพิจารณาตัดสินซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคารในนครโฮจิมินห์ นายสียังคงให้การยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ศาลอุทธรณ์กล่าวว่า ครอบครัวของนายสีได้จ่ายเงินคืนเป็นจำนวน 3 ล้านด่ง (ราว 145,000 ดอลลาร์) ให้กับศาลหลังจากการพิจารณาคดีครั้งแรก
อัยการกล่าวว่า คำตัดสินของนายสีควรลดลง เพราะแม้ว่านาสีจะรับสิ่งจูงใจจากบริษัทที่ปรึกษาแปซิฟิกคอนซัลแทนท์อินเตอร์เนชันแนล (CPI) แต่บริษัทดังกล่าวอาจชนะประมูลก่อสร้างโครงการทางด่วนก็เป็นได้
นายสี ได้รับโทษแล้ว 6 ปี จากความผิดฐานยักยอกเงินค่าเช่าอาคารสำนักงานของรัฐที่ได้รับจากบริษัทเดียวกันนี้เข้ากระเป๋าตัวเอง
ในปี 2552 ศาลในประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินจำคุกนายมาสะโยชิ ตากะ อดีตประธานกรรมการบริหารบริษัท PCI ฐานติดสินบนนายสี และสื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า นายตากะ ยอมรับว่า จ่ายเงินเป็นสินบนให้นายสีจำนวน 820,000 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่ถูกกล่าวหาในการพิจารณาคดีครั้งแรกถึง 3 เท่า
ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ได้กลับมาให้ความช่วยเหลือเวียดนามอีกครั้งในเดือน มี.ค.2552 หลังระงับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551 เพราะเหตุอื้อฉาวของบริษัท PCI
เวียดนามถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก และการรับสินบนเป็นประเด็นวิตกกังวลอันดับแรกๆ ของชาวเวียดนามทั่วไป
ทางด้านสหประชาชาติระบุในรายงานปี 2552 ว่า การให้ติดสินบนไม่ได้ลดจำนวนลงและการรับสินบนเกิดขึ้นในทุกระดับชั้นของพรรคคอมมิวนิสต์และฝ่ายปกครอง ทั้งในภาครัฐและเอกชน