ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ลูกเรือสินค้าเวียดนามที่รอดชีวิตจากเรือดิ่ง "สะดือทะเล" บอกกับครอบครัวของเขาทางโทรศัพท์ในวันศุกร์ 30 ธ.ค.นี้ว่า เรือสินค้า 56,000 ตันจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลาเพียงเสี้ยวนาที เหมือนมีแรงดูดมหาศาล และ ตัวเขาเองเป็นเพียงคนเดียวจากทั้งหมด 23 คนบนเรือที่ถกระโดดเกาะชูชีพได้ทัน
นายเดิ่วหง็อกหุ่ง (Đậu Ngọc Hùng) ลูกเรือวัย 31 ปี ที่รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ โทรศัพท์จากสิงคโปร์บอกเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวใน จ.เหงะอาน (Nghệ An) ในภาคกลางตอนบนได้ทราบ ด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือหวาดผวาและร้องไห้ตลอดเวลา หนังสือพิมพ์ออนไลน์ซเวินเหวียด (Báo Dân Việt) รายงานในวันเสาร์ 31 ธ.ค.นี้
นายหุ่งใช้ชีวิตลอยคำในน้ำเป็นเวลา 5 วัน ก่อนเรือลอนดอนเคอเรจ (London Courage) เรือสินค้าสัญชาติอังกฤษไปพบในสภาพอ่อนระโหยและนำเขามุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ในวันพฤหัสบดี ขณะนี้อาการกลับคืนเป็นปรกติแล้ว ซเวินเหวียดกล่าวโดยอ้างการบอกเล่าของสมาชิกครอบครัวนายหุ่ง
เจ้าหน้าที่บริษัทวินาไลนส์ได้ออกยืนยันเรื่องนี้ในวันเดียวกัน ระบุว่าเรือสินค้าของอังกฤษ ไปพบนายหุ่งลอยคอห่างออกไปกว่า 300 กม.จากบริเวณที่เรือวินาไลนส์ควีน (Vinalines Queen) ติดต่อกับไปยังกรุงฮานอยเป็นครั้งสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ผู้นี้อ้างข้อมูลจากลูกเรือที่รอดชีวิตว่า ทั้งกัปตัน ลูกเรือและเจ้าหน้าที่บนเรือคนอื่นๆ จมลงสู่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างรวดเร็วต่อหน้าเขาเองภายในเสี้ยวนาที และเขาไม่ทราบว่ามีคนอื่นๆ รอดชีวิตหรือไม่
นายเหวียนแองหวู (Nguyễn Anh Vũ) ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทวินาไลนส์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเดินเรือขนส่งสินค้าของเวียดนามให้สัมภาษณ์ในวันศุกร์ว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำเรือวินาไลนส์ควีนจมครั้งนี้ และยังไม่ทราบจุดที่เกิดเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีทันสมัย หน่วยค้นหากู้ภัยจากไต้หวันและญี่ปุ่นที่ปฏิบัติงานาต่อเนื่องติดต่อกันมาถึง 6 วัน จะสามารถระบุตำแหน่งของเรือได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะระบุตำแหน่งของเรือเคราะห์ร้ายได้แล้ว การกู้เรือกับทรัพย์สินต่างๆ อาจจะไม่สามารถทำได้ในความลึกขนาดนั้น นายหวูกล่าวอีกว่าบริษัทฯ ได้ประกันชีวิตให้ลูกเรือคนละ 40,000 ดอลลาร์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงวงเงินประกันสำหรับเรือและสินค้า
.
.
เรือชะตาขาดบรรทุกสินแร่นิเกล 54,000 ตันจากท่าเรือแห่งหนึ่งของอินโดนีเซียไปยังจีน และ เกิดเหตุขณะแล่นผ่านอาณาบริเวณที่เรียกว่า "ห้วงลึกมันดาเนา" บริเวณลึกที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์
วินาไลนส์ควีนขนาด 54,060 ตัน ยาว 190 เมตรต่อในประเทศญี่ปุ่น เข้าประจำการเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นเรือทันสมัยที่สุดลำหนึ่งในกองเรือสินค้าของเวียดนาม ติดอุปกรณ์เดินเรือสมัยใหม่ครบครัน รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้งานได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ และอุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉิน ซึ่งสามารถทำงานอัตโนมัติ แม้ว่าเรือจะจมจนถึงก้นทะเล ระบบไฟถูกตัดขาดทั้งหมดก็ตาม
ผู้บริหารของบริษัทเดินเรือเวียดนามกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เรือเคราะห์ร้ายติดต่อกลับสำนักงานเมื่อเวลาประมาณ 7 น.วันอาทิตย์ระบุแต่เพียงว่า "เรือเอียง 18 องศา" ลงทางกราบซ้าย และจากนั้นเสียงก็เงียบหายไป ไม่มีสัญญาณใดๆ อีก
บริษัทที่ให้บริการติดตามเรือผ่านดาวเทียมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าดาวเทียมสามารถตรวจจับเรือสินค้าและเรืออื่นๆ ได้ทุกลำในย่านเดียวกันในเวลาเดียวกันกับที่ระบุว่าวินาไลนส์ควีนได้จมลง แต่ไม่สามารถตรวจจับเรือเคราะห์ร้ายของเวียดนามได้
เหตุการณ์นี้ได้ตกเป็นข่าวทางเว็บบอร์ดในอุตสาหกรรมเดินเรือทั่วโลกตลอดทั้งสัปดาห์ บริษัทเดินเรือบางแห่งแนะนำมิให้เรือของตนแล่นผ่านอาณาบริเวณดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา และ เกือบจะทุกแห่งขอให้เรือช่วยสอดส่องหาร่องรอยผู้รอดชีวิตจากเรือวินาไลนส์ควีน ตามคำร้องขอของเวียดนาม.