เทเลกราฟ - สตรีผู้รอดชีวิตจากภัยสึนามิชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งขุดค้นสุสานรถยนต์ จนพบศพของสามีผู้เป็นที่รัก ซึ่งเธอตามหามาตลอดเวลาเกือบ 8 เดือน หลังเกิดเหตุธรณีพิโรธและคลื่นยักษ์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของดินแดนอาทิตย์อุทัย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งพรากชีวิตหัวหน้าครอบครัวไปจากเธอ
ภรรยาซึ่งได้รับการสงวนนามในรายงานฉบับนี้ ระบุว่า ต้องการคำตอบจากรัฐบาลท้องถิ่นเมืองคามาอิชิ จังหวัดอิวาเตะ กรณีที่ล้มเหลวในการค้นหาร่างไร้วิญญาณของสามีของเธอภายในซากรถยนต์ ขณะเคลื่อนย้ายซากรถยนต์คันนี้ไปยังสุสานรถชั่วคราว เพื่อรอการทำลาย
รถสเตชั่นวากอนสีขาว ถูกพบในสภาพไม่เหลือชิ้นดี ชิ้นเหล็กบิดเบี้ยว และมีสนิมเกรอะกรัง ที่สุสานรถชั่วคราว หลังจากถูกเคลื่อนย้ายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงาน แต่เจ้าหน้าที่เพิ่งแจ้งให้ภรรยาทราบเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ว่า ซากรถคันนี้อยู่ที่ใด
เหตุแผ่นดินไหว 9.0 ก่อคลื่นยักษ์สึนามิซัดทำลายจังหวัดอิวาเตะ ด้วยความสูงประมาณ 40 เมตร ตั้งแต่นั้นมา ภรรยาและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตในวัย 35 ปี ก็ออกตามหาร่องรอยของเขาไปทั่วพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งคาดว่า พลังน้ำอาจพัดพาเขาไป ทว่า ก็ไร้วี่แววแห่งความหวัง หลังค้นหาจนอ่อนใจ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจจัดงานศพ โดยไม่มีศพผู้เสียชีวิต ก่อนแจ้งหมายเลขทะเบียนรถคันที่สูญหายไปพร้อมกับผู้เสียชีวิตต่อฝ่ายปกครองเมืองคามาอิชิ
ต่อมา เมื่อทางครอบครัวได้รับข้อมูล ว่า ซากรถถูกเก็บไว้ที่ใด ภรรยาผู้เป็นห่วงสามีได้พาเพื่อนคนหนึ่งรุดไปยังสุสานรถชั่วคราวในทันที หลังตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ เพื่อนของเธอก็ใช้เครื่องจักรช่วยเคลื่อนย้ายซากรถคันอื่นๆ ที่กองทับอยู่ด้านบน ขณะภรรยาที่คอยชี้จุด จนพบซากรถที่มีศพสามีของเธอติดอยู่ในที่นั่งฝั่งคนขับ
“กรณีนี้เป็นเรื่องน่าสลดใจมาก” เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อาซาฮี “เราควรจะพบศพของเขามาตั้งนานก่อนหน้านี้ หากเราตรวจสอบสุสานรถอย่างทั่วถึง ถึงแม้เราจะมีข้อมูลเพียงน้อยนิดว่า รถของเขาถูกเคลื่อนย้ายไปที่นั่น ... แต่เป็นไปไม่ได้ที่เราจะค้นทุกคันในสุสานรถ เพื่อค้นหาศพผู้เสียชีวิตในเวลาเช่นนั่น”
ตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นคามาอิชิออกค้นหาร่างผู้ประสบภัยไปตามซากรถยนต์ในสุสานรถชั่วคราวทั่วเมือง แต่ก็ไม่เคยค้นพบแม้แต่ศพเดียว ทั้งนี้ มีรถยนต์มากกว่า 3,000 คัน ถูกทิ้งไว้ทั่วเมืองคามาอิชิ ขณะที่ทางจังหวัดอิวาเตะมีรายนามผู้สูญหายที่ยังไม่ทราบชะตากรรมอีกประมาณ 1,400 ราย