ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- จะต้องถือเป็นกติกาอย่างเคร่งครัด เมื่อขึ้นไปบนเครื่องของเวียดนามแอร์ไลนส์ หรือแม้ในระหว่างเช็กอิน ผู้โดยสารจะต้องไม่พูดถึงคำว่า “ระเบิด” ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องพบชะตากรรมแบบเดียวกัน คือ ถูกไล่ลงจากเครื่องบิน และอาจจะถูกห้ามขึ้นอีกชั่วชีวิต สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ยอมทิ้งผู้โดยสารปากเปลาะประเภทนี้มามากต่อมาก
ล่าสุด สัปดาห์นี้พนักงานบนเครื่องของเวียดนามแอร์ไลนส์ ได้เชิญนักกีฬาพิการวัย 40 ปี ซึ่งสังกัดทีมชาติเวียดนามลงจากเครื่องอีกคนหนึ่ง ที่สนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ โดเยกล่าวหาว่า ชายพิการที่นั่งรถเข็นคันนี้พูดกับพนักงานว่า “หากผมขว้างระเบิด คงจะมีคนตายกันเยอะ”
“โอ้.. คนมากเหลือเกินแออัดเบียดเสียดกันไปหมด นี่ถ้าหากผมปาระเบิดที่นี่ คงจะมีคนตายกันเยอะ” เป็นคำพูดทั้งหมดของนายกาวห่มง์เซิน (Cao Hong Son) ขณะรอเช็กอิน เพื่อร่วมคณะไปแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกในประเทศอินโดนีเซีย แต่ นายห่มง์เซิน ปฏิเสธว่า ตนไม่ได้พูดถึงเรื่องระเบิดใดๆ ทั้งสิ้น
ตามรายงาของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ทันทีที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานได้เข้าประชิดตัวนายห่มง์เซิน และ เชิญตัวไปในห้องเพื่อสอบปากคำ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้ค้นหาระเบิดในกระเป๋าและสัมภาระของนายเซินและของนักกีฬาพิการคนอื่นๆ ที่ร่วมคณะโดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
นายเซิน เดินทางจากกรุงฮานอยไปสมทบกับนักกีฬาคนอื่นๆ ที่ท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์เพื่อเดินทางร่วมคณะไปยังอินโดนีเซีย เขายอมรับว่าก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบินโนยบ่าย ได้ดื่มเบียร์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เมา
นักกีฬาพิการผู้นี้บอกกับเตื่อยแจ๋ ว่า สิ่งเดียวที่เขารู้ ก็คือ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ไปเชิญตัวออกจากที่บริเวณเค้าน์เตอร์เช็คอินโดยไม่มีการอธิบายอะไรทั้งสิ้น และนำไปสอบปากคำในเรื่องที่ตนเองไม่ได้พูด จึงไม่ยอมเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา “เผยแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับระเบิดซึ่งเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการบิน”
นายหวูเถเฟี๊ยต (Vu The Phiet) หัวหน้าทีมพาราลิมปิกจากเวียดนามให้สัมภาษณ์จากอินโดนีเซียว่า ไม่นานก่อนจะออกเดินทางเจ้าหน้าที่เวียดนามแอร์ไลนส์ ได้แจ้งให้ทราบว่า ไม่สามารถอนุญาตให้นายเซินร่วมเดินทางไปในเที่ยวบินนี้ได้ เตื่อยแจ๋กล่าว
