ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พม่ากำลังเร่งก่อสร้างสนามกีฬาใหญ่พร้อมๆ กันถึง 2 แห่งในอาณาบริเวณเดียวกันที่เมืองหลวงใหม่เนปีดอ เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งกีฬาซีเกมปี 2556 หรืออีกเพียง 2 ปีข้างหน้า ถัดจากอินโดนีเซียซึ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้
พม่าชอบมีเซอร์ไพรส์อะไรใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะๆ
ปลายปีที่แล้วยังไม่แน่ใจจะสร้างสนามกีฬาใหญ่เสร็จทันหรือไม่ จะเป็นเจ้าภาพได้หรือไม่สำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 27 และสิงคโปร์เตรียมตัวจะเข้าเสียบแทนอยู่แล้ว แต่เดือน ม.ค.ปีนี้ พลเอกอาวุโสตานฉ่วย อดีตผู้นำทหารสั่งโครมเดียวให้เดินหน้าทันที ทุกอย่างก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทันตาเห็น
ใหญ่ที่สุดหรือเปล่า? ก็ไม่เชิง
“เนปีดอ สเตเดียม” แห่งแรก ที่มีชื่อว่า ซาบุติริ (Zabuthiri) จุผู้ชมได้ 30,000 คน และ สนาม “เซยาติริ” (Zayarthiri) คู่แฝดก็จุได้เท่ากัน เล็กกว่าสนามตุวันนา (Thuwanna Stadium) ขนาด 35,000 ที่นั่งในกรุงย่างกุ้ง กับโบะย๊กอองซานสเตเดียม (Bogyoke Aung San Stadium) ที่จุได้ถึง 40,000 คน เป็นสนามกีฬาแห่งชาติปัจจุบัน
เว็บไซต์ soccermyanmar.com รายงานก่อนหน้านี้ ว่า สนามซาบุติริจะใช้ทำพิธีเปิดและปิดสำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 27 อีก 2 ปีข้างหน้า ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเอเอฟพีสัปดาห์นี้จะเห็นการก่อสร้างที่มีความคืบหน้าไปมาก
ยังไม่มีคำอธิบายว่า สนามกีฬาแห่งที่ 2 จะใช้งานอะไรจำเพาะหรือไม่ แต่เข้าได้ใจว่า ทั้ง 2 แห่งจะใช้จัดแข่งซีเกมส์ ทั้งนี้ เนื่องจากเมืองหลวงใหม่ผุดขึ้นกลางป่าเขาลำเนาไพร ห่างจากย่างกุ้งไปทางเหนือกว่า 300 กม.และสนามกีฬาใกล้ที่สุดในมัณฑะเลย์ก็มีขนาดเล็ก จุผู้ชมได้ราว 17,000 เท่านั้น และชาวพม่าก็เป็นแฟนฟุตบอลตัวฉกาจ
ผุดขึ้นกลางป่าเขา AFP
2
3
4
ปัจจุบันโบะย๊กสเตเดียมเป็นที่ตั้งของสโมสรย่างกุ้งยูไนเต็ด (Yangon United FC) กับสำนักงานของเมียนมาร์ลีก ส่วนสนามกีฬาใหม่เนปีดอ จะเป็นของเนปีดอเอฟซีของนายซอซอ (Zaw Zaw) นายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบัน และเมื่อสร้างเสร็จก็จะกลายเป็นสนามกีฬาแห่งชาติแห่งใหม่
นอกจากจะเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแล้ว ซอซอยังเป็นประธานกลุ่มแม็กซ์เมียนมาร์ ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างเนปีดอสเตเดียมทั้งสองแห่งและยังเป็นบริษัทก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์สายยาว เป็นเจ้าของโรงแรมหรูกับห้างสรรพสินค้าในเมืองหลวงใหม่อีกด้วย
ในด้านการกีฬา พม่าเคยเป็นหนึ่งไม่มีสองรองใครในอนุภูมิภาคนี้
ทีมชาติพม่าเคยเป็นแชมป์ฟุตบอลเอเชียนเกมส์มา 2 ครั้ง ใครเกิดทันก็คงจะจำได้ดี เมื่อปี 2507 กับ 2513 เคยผ่านเข้ารอบคัดเลือกโอลิมปิกเมื่อปี 2515 จนเป็นที่ฮือฮา หรือ กระทั่งในยุคใหม่ที่การเมืองไม่เคยนิ่ง ทีมชาติพม่ายังคว้าแชมป์ฟุตบอลเมอร์เดกาปี 2549 กับถ้วยรองชนะเลิศในปี 2550 และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในซีเกมส์ครั้งที่ 24
ปีแล้วถึงกับมีข่าวรั่วออกมาจากวิกิลีกส์ ว่า อดีตผู้นำสูงสุดของพม่าเล็งๆ อยากจะเป็นเจ้าของสโมรสรปิศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แม้จะเป็นแค่ข่าวลือแต่ก็ฮือฮากันทั้งวงการ
ปัจจุบันพม่ากำลังอวดบ้านอวดเมืองแก่ผู้ไปเยือน และอาจจะถึงยุคกีฬาไปโลดอีกครั้ง.
ประเทศนี้เขาจริงจัง AFP/Reuters
5
6
7
8
9
10