ซินหัว - องค์กรกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุในงานวิจัยชิ้นใหม่ที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า ประชากรโลมาอิรวดี ที่เป็นสายพันธุ์โลมาที่พบในบริเวณแม่น้ำโขง อยู่ในสภาพที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยล่าสุดพบว่ามีจำนวนเพียง 85 ตัวเท่านั้น
แถลงของ WWF ระบุว่า พบลูกโลมาที่มีชีวิตในจำนวนที่ต่ำมาก ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าด้วยจำนวนประชากรโลมาที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ กำลังลดจำนวนลงและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์
ผู้อำนวยการโครงการคุ้มครองสัตว์น้ำจืด ของ WWF ระบุว่า การวิจัยมาจากการถ่ายภาพระบุเอกลักษณ์โลมาผ่านคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละตัวจากครีบหลังของโลมาตัวนั้นๆ ซึ่งโลมาส่วนมากสามารถระบุได้ และใช้ข้อมูลจากภาพถ่ายประเมินขนาดประชากรโลมา
แม้ว่า จำนวนประชากรโลมาที่ประเมินจะสูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า แต่จากการสำรวจที่เริ่มตั้งแต่ปี 2550 ถึงปี 2553 ก็แสดงให้เห็นว่า จำนวนประชากรโลมาค่อยๆลดลง
"หลักฐานระบุชัดเจนว่า มีลูกโลมาจำนวนน้อยมากที่อยู่รอดและเติบโตจนสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน โลมาอายุมากก็ตายลงแต่ไม่มีโลมาตัวใหม่มาทดแทน" นายหบี่บี่เฟิง (Li Lifeng) กล่าว
ทั้งอวนแหที่เป็นสิ่งกีดขวางในแม่น้ำและอัตราการตายของลูกโลมาในระดับสูง เป็นสิ่งน่ากังวลเป็นอย่างยิ่งต่ออนาคตของโลมา เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
โลมาอิรวดีในแม่น้ำโขงถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ตั้งแต่ปี 2547
นายโต๊ดเสียงทานา (Touch Seang Tana) ประธานคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเขตการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโลมาแม่น้ำโขง ปฏิเสธข้อค้นพบของ WWF และว่าในปี 2553 พบโลมาเสียชีวิตจากแหจับปลาเพียง 4 ตัว ขณะเดียวกันก็พบลูกโลมาเกิดใหม่เพิ่ม 7 ตัว
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังกล่าวอีกว่า จำนวนประชากรโลมาแม่น้ำโขงทั้งหมดในจ.กระตี และจ.สตึงเตรง มีอยู่ราว 155-177 ตัว เพิ่มจาก 100 ตัวในปี 2547.