เวียดนามนิวส์ -- กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่า ในเวียดนามมีเสือโคร่งที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติเพียง 30 ตัว จากทั้งหมด 3,200 ตัวทั่วโลก และล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามได้ส่งมอบเสือโคร่งที่ตายแล้วน้ำหนัก 156 กก.ตัวหนึ่ง ให้กับพิพิธภัณฑ์บิ่งซเวืองเพื่อใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
กองทุนนี้กล่าวว่าเวียดนาม เคยมีเสืออาศัยอยู่ในป่าถึง 100 ตัว เมื่อ 10 ปีก่อน และว่า จำนวนประชากรเสือในโลกลดลง 97% นับตั้งแต่ปี 2443
นายโด๋กว่างตุ่ง (Do Quang Tung) รองผู้อำนวยการสำนักงานอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ในเวียดนาม ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ประชากรเสือโคร่งลดลง คือ การตัดไม้ทำลายป่า นอกจากนั้น การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมนุษย์ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรเสือ รวมทั้งการล่าและค้าเสือผิดกฎหมาย
นายนิค ค็อกซ์ ผู้จัดการพื้นที่คุ้มครอง สายพันธุ์ และการค้าสัตว์ป่า ของ WWF กล่าวว่า เวียดนามเป็นศูนย์กลางการค้าผลิตภัณฑ์จากเสือ และยาผิดกฎหมายที่ผลิตขึ้นจากกระดูกเสือกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ดังนั้น การยับยั้งการค้าเสือระหว่างประเทศอย่างผิดกฎหมายและการบริโภคเสือภายในประเทศจึงมีความสำคัญอย่างมาก
นายเคชาฟ วาร์มา ผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์เสือโลก (GTI) กล่าวว่า ความต้องการชิ้นส่วนอวัยวะเสือที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องและการลักลอบค้าที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารยอมรับได้ และหากเรื่องดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปอย่างที่เป็นอยู่ เสือโคร่งที่เหลืออยู่ในภูมิภาคอินโดจีนจะหายไปหมดในอีกไม่กี่ปี
นางฮว่างถิแท็ง เญิน รองหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการประชุมของ GTI เพื่อช่วยอนุรักษ์เสือโคร่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ
เวียดนามและอีก 12 ชาติ ได้ให้คำมั่นที่จะกำจัดการล่าและค้าเสืออย่างผิดกฎหมาย ในการประชุมเสือโคร่งโลก ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย เมื่อเดือน พ.ย.2553
นายตุง กล่าวด้วยว่า โครงการระดับชาติในการอนุรักษ์เสือโคร่งมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ ตั้งขึ้นในวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มจำนวนเสือโคร่งในป่าในเวียดนามให้มากเป็น 2 เท่า ภายในปี 2563