จันทบุรี-อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เร่งเสริมองค์ความรู้บุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กรอบอนุสัญญาไซเตสด้านพืช เพื่อสอดรับแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้( 26 พ.ค. ) ที่ห้องประชุมโรงแรมเคพีแกรนด์ จันทบุรี นายมานิตย์ ใจฉกรรจน์ หัวหน้ากลุ่มอนุสัญญาคุ้มครองพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในเรื่อง การปฏิบัติงานภายใต้กรอบอนุสัญญาไซเตส ด้านพืช สำหรับพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ในเขตพื้นที่ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก โดยมีบุคลากรของกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.จันทบุรี เข้าร่วมการสัมมนาจำนวนมาก
นายมานิตย์ กล่าวว่า ในการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ในสังกัดกรมวิชาการเกษตร จะต้องมีการประสานความร่วมมือกับบุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อทำงานร่วมกันตามพันธกรณี ภายใต้กรอบ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศประเภทสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ อนุสัญญาไซเตซ ซึ่งต้องมีการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ร่วมกันยุติปัญหา การลักลอบการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย
ที่ผ่านมา ประเทศประสบปัญหาการลักลอบค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกล้วยไม้ แม้ว่าหลายหน่วยงานจะร่วมมือกันป้องกัน และปราบปรามดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมทั้งการทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างสูงสุด ภายใต้กรอบอนุสัญญาไซเตซ ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุม กำกับดูแล การนำเข้า - ส่งออก นำผ่านพืชอนุรักษ์ และการค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อมูลข่าวสาร กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ อนุสัญญาไซเตซ ทางด้านพันธุ์พืช เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงาน ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายมานิตย์ กล่าวต่อไปว่า ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานตามด่านตรวจพืช ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบ ถึงบทบาทหน้าที่ ที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้ ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ความรู้ และ ประสบการณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ในการสร้างความร่วมมือดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย คุ้มครองสัตว์ป่าและ พืชป่าอนุรักษ์ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และเจตนารมณ์ของอนุสัญญาไซเตซร่วมกัน
วันนี้( 26 พ.ค. ) ที่ห้องประชุมโรงแรมเคพีแกรนด์ จันทบุรี นายมานิตย์ ใจฉกรรจน์ หัวหน้ากลุ่มอนุสัญญาคุ้มครองพันธุ์พืช เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในเรื่อง การปฏิบัติงานภายใต้กรอบอนุสัญญาไซเตส ด้านพืช สำหรับพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ในเขตพื้นที่ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก โดยมีบุคลากรของกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.จันทบุรี เข้าร่วมการสัมมนาจำนวนมาก
นายมานิตย์ กล่าวว่า ในการปฏิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ในสังกัดกรมวิชาการเกษตร จะต้องมีการประสานความร่วมมือกับบุคลากรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อทำงานร่วมกันตามพันธกรณี ภายใต้กรอบ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศประเภทสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ อนุสัญญาไซเตซ ซึ่งต้องมีการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ร่วมกันยุติปัญหา การลักลอบการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย
ที่ผ่านมา ประเทศประสบปัญหาการลักลอบค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกล้วยไม้ แม้ว่าหลายหน่วยงานจะร่วมมือกันป้องกัน และปราบปรามดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมทั้งการทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างสูงสุด ภายใต้กรอบอนุสัญญาไซเตซ ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุม กำกับดูแล การนำเข้า - ส่งออก นำผ่านพืชอนุรักษ์ และการค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อมูลข่าวสาร กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ อนุสัญญาไซเตซ ทางด้านพันธุ์พืช เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงาน ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายมานิตย์ กล่าวต่อไปว่า ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานตามด่านตรวจพืช ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบ ถึงบทบาทหน้าที่ ที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้ ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ความรู้ และ ประสบการณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ในการสร้างความร่วมมือดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้าพืชป่าที่ผิดกฎหมาย คุ้มครองสัตว์ป่าและ พืชป่าอนุรักษ์ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และเจตนารมณ์ของอนุสัญญาไซเตซร่วมกัน