บริษัทจีนตัดหน้าเวียดนาม เซ็นซื้อข้าวเขมรระยะยาว

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- จากที่ไม่เคยส่งออกได้เองและต้องขายข้าวในราคาถูกให้กับผู้ซื้อจากเวียดนามมาโดยตลอด ปีนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป เมื่อบริษัทจีนแห่งหนึ่งเซ็นซื้อข้าวล็อตแรกทันที 200,000 ตัน และกำลังจะกว้านซื้อพืชผลการเกษตรอื่นๆ จากกัมพูชาเป็นมูลค่าถึง 200 ล้านดอลลาร์

ตามรายงานของสำนักข่าวกัมพูชา บริษัท ซิโรเกรน (Sinograin Corp) จากนครกว่างโจว ได้เซ็นความตกลงกับบริษัท ทีทีวายคอร์ป (TTY Corp) ซึงเป็นบริษัทเอกชนในกัมพูชา ซื้อข้าวปริมาณดังกล่าวเป็นมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ และในปีหน้าบริษัทฝ่ายกัมพูชาจะต้องหาพืชผลอื่นๆ รวมทั้งข้าวโพด ถั่วลิสง รวมมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัทจากจีนแห่งนี้ด้วยราคาท้องตลาด

นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา ได้ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีเซ็นสัญญาที่จัดขึ้นในวันพุธ 17 ส.ค.นี้ ในกรุงพนมเปญ สำนักข่าวของรัฐบาลกล่าว โยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับสัญญาอีก

กัมพูชากำลังดำเนินการที่จำเป็นทุกอย่างเพื่อส่งออกข้าวให้ได้ 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2558 และครึ่งแรกของปี 2554 นี้ ข้าวทำเงินให้ประเทศ 45.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จาก 13.4 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว สำนักข่าวทางการรายงานโดยไม่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณ ราคาจำหน่ายหรือชนิดของข้าว

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในแต่ละปีพ่อค้าจากเวียดนามจะข้ามพรมแดนเข้าไปกว้านซื้อข้าวเปลือกจากกัมพูชาโดยตรง และนำกลับไปยังจังหวัดในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง สีเป็นข้าวสารและส่งออก

ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ ชาวนากัมพูชาปลูกข้าวหอมได้หลายพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวดอกลำดวนซึ่งเป็นพันธุ์ที่ชาวนาไทยในจังหวัดชายแดนนิยมปลูกกันเนื่องจากมีคุณภาพดีและจำหน่ายได้ราคาดี ปัจจุบันนิยมปลูกกันใน จ.พระตะบอง และจังหวัดรอบๆ ทะเลสาบใหญ่

หลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของข้าวเวียดนามกำลังพยายามหาทางนำเข้าโดยตรงจากกัมพูชา อีกหลายประเทศรวมทั้งบรูไน และประเทศในแอฟริกา ให้ความสนใจ ขณะที่เศรษฐีน้ำมันจากตะวันออกกลาง คือ คูเวต กับ กาตาร์ ได้เจรจากับกัมพูชาเพื่อเช่าที่นาสำหรับปลูกข้าวนำกลับไปเลี้ยงดูประชากร

ขณะเดียวกัน กัมพูชากำลังจะจัดการประชุมระหว่างประเทศในเดือน ต.ค.นี้ ว่าด้วยการส่งออกข้าวโดยเฉพาะเพื่อเตรียมรับแผนการในปี 2558 โดยจะเชิญผู้ค้าและลูกค้าข้าวทั้งจากสหภาพยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย เข้าร่วมด้วย

ชาวนากัมพูชาซึ่งมีจำนวนราว 85% ของประชากร 14 ล้านคน สามารถทำนาได้ผลผลิตมากขึ้นทุกปี จากระบบชลประทานที่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางด้วยเงินช่วยเหลือ และเงินกู้จากต่างประเทศ แต่กัมพูชาขาดแคลนโรงสีข้าวขนาดใหญ่และทันสมัย กับไซโลหรือโกดังสำหรับเก็บ ซึ่งทำให้การส่งออกข้าวมีอุปสรรคสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนมานี้บริษัทจากจีนอย่างน้อย 2 แห่ง และบริษัทจากฝรั่งเศสอีก 1 แห่งได้รับใบอนุญาตให้ลงทุนสร้างโรงสีข้าวทันสมัย ซึ่งกำลังจะทำให้การผลิตและการค้าข้าวของกัมพูชาเปลี่ยนรูปโฉมไป