“ตุ๊กตาหน้าเป็น" ประกาศ ชาตินี้ไม่ขอรักชายจนๆ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นว่าเล่น ควงหนุ่มๆ เปลี่ยนหน้า เป็นเจ้าของวาทะ “จะรักหนูต้องจ่ายแพงนะ” สื่อสารด้วยคำพูดซื่อๆ เปิดเผย ตรงไปตรงมา เคยจนแบบติดดินกินข้าวเปล่า บัดนี้เป็นเจ้าของกระเป๋าชาแนล ราคา 6,000 ดอลลาร์ ขับออดี้ A4 วันเกิดทุกปีหมายถึงเปลี่ยนรถคันใหม่ เธอบอกว่าชาตินี้ไม่ขอแต่งกับผู้ชายจนๆ

นั่นคือ คำพูดประสาซื่อของ เจิ่นถิหง็อกจีง (Trần Thị Ngọc Trinh) ราชินีแห่งชุดชั้นในชาวเวียดนาม ผู้มีราคาค่าตัว 3,000 ดอลลาร์

คำให้สัมภาษณ์ที่สะเทือนอารมณ์ความรู้สึกของ “ตุ๊กตา” ตีพิมพ์ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ “เดิ๊ตเหวียด” (Báo Đất Việt) สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสร้างความฮือฮาระคนกับความโกรธแค้นในประชาคมออนไลน์

“หนูจะไม่แต่งกับคนจนๆ” เป็นประโยคที่เสียดแทงใจผู้คนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวออนไลน์ที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มยากจนซ้ำซาก

หลายคนสวนกลับไปว่า “ตุ๊กตา” อกโตแต่ไม่มีสมอง หลายคนบอกว่า เธอก็แค่ “ผู้หญิงลืมตัววัวลืมตีน” คุยโวโอ้อวด บางคนถึงกับโพล่งออกมาว่า จะเอาอะไรกับแค่ “นางทางโทรศัพท์” ..

แต่ สาว ตจว.ผ่านชีวิตรันทดมามากกว่านี้ เบื้องหลังชีวิตระทมหนักกว่านางเอกละครน้ำเน่าหลังข่าวทุกเรื่อง

หง็อกจีง อธิบายกับสำนักข่าวซเวินจี๊ เมื่อวันศุกร์ว่า เธออยู่กับความยากจนมานานมาก นานจนไม่อยากจะกลับไปหามันอีก และในวันนี้สิ่งเดียวที่มีอยู่ ก็คือ ครอบครัว คุณพ่อกับคุณแม่ ถึงแม้จะเป็นแม่เลี้ยง แต่ก็เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ 6 ขวบ

เกิดปี 2533 เกิดมาก็ลำบากแล้ว คุณแม่ป่วยหนักขณะอุ้มท้อง และต้องคลอดเธอก่อนกำหนด แม่กับลูกจะรอดเพียงคนเดียวเท่านั้น หมอบอกให้พ่อเป็นคนเลือก และพ่อเลือกเธอ เพราะเป็นความประสงค์ของแม่

พ่อต้องเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ตามลำพังอยู่ 6 เดือน จึงแต่งกับแม่เลี้ยงคนแรก พอเธออายุ 6 ขวบ แม่ก็จากไปอีกคน ทิ้งน้องๆ ไว้ให้ดูแลอีก 3 เมื่อรวมกับชุดแรก ทำให้เธอมีพี่ๆ น้องทั้งหมด 6 คน

ตุ๊กตา บอกว่า ทั้งพี่สาวพี่ชายต้องออกจากบ้าน จ.จ่าวีง (Trà Vinh) เข้านครโฮจิมินห์ ทำงานทุกอย่าง เพื่อให้มีเงินส่งกลับไปให้พ่อกับแม่ที่อยู่ข้างหลัง แต่หลายปีผ่านไปก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครอบครัวยังเป็นหนี้เป็นสิน ตัวเธอเองจึงต้องตามไปอีกคนตั้งแต่อายุ 15 หวังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตบ้าง

“มันคงไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร หากหนูเลือกที่จะไม่รักผู้ชายจนๆ” สาวสวยบอกกับสำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนาม

2
หง็อกจีง มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเดินแบบและเป็นนางแบบโฆษณาชุดชั้นในสตรี ด้วยผิวที่ขาวกระจ่างเหนือปกติ งามด้วยของแท้ทุกอย่างตามธรรมชาติ รูปร่างพอเหมาะและดูดีไปหมด จนได้รับฉายาเป็น “ราชินีแห่งชุดชั้นใน” วันนี้มีรูปภาพของเธอมากมายวนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ และผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในเวียดนามและต่างประเทศ

นางแบบสาวสวยตกเป็นขี้ปากประชาคมออนไลน์เมื่อต้นปีนี้ เมื่อเธอกับเพื่อนๆ พี่ๆ นางแบบและนายแบบคณะใหญ่ราว 10 ชีวิตเดินทางเข้าไทย และภาพที่สาวๆ กำลังมึนๆ เมาๆ ทำกิริยาแปลกๆ ในดิสโกเธคแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กลายเป็นความฉาวโฉ่ในอินเทอร์เน็ต

หง็อกจีง กล่าวว่า ทุกคนในภาพกำลังผ่อนคลายและสนุกสนานกันระหว่างเพื่อนๆ ในช่วงหยุดพัก หลังทำงานหนักทั้งวัน เพราะเหตุใดสังคมจึงด่วนตัดสินว่า เป็นภาพที่ดูแล้ว “น่าเกลียด”

ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “เดิ๊ตเหวียด” ก่อนหน้านี้ หง็อกจีง ได้เปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตรันทดในวัยเด็ก เธอต้องเข้าทำงานในโรงสนุกเกอร์เมื่ออายุ 15 และได้พบกับ หวูคักเตียบ (Vu Khac Tiep) ผู้อำนวยการของวินัสโมเดล (Venus Model) ที่นั่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มการไต่เต้าสู่ดวงดาวในวงการแฟชั่น

“ตุ๊กตา” คนสวยได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดหลายครั้ง รวมทั้งในปี 2548 และ 2550 ด้วย

หลายคนถามว่า เธอเคยเป็นแฟนและอยู่กินกับผู้อำนวยการคนนี้ใช่หรือไม่ “ตุ๊กตา” บอกแต่เพียงว่า ผู้ชายคนนี้แต่งงานแล้วและเป็นเพียงอดีต

จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่อยากได้ตุ๊กตาหมีใจแทบขาด แต่ไม่เคยได้เป็นเจ้าของ อยากจะปั่นจักรยานเหมือนเด็กๆ เพื่อนบ้าน แต่ก็เป็นแค่ฝัน จากวัยเด็กที่เกือบทุกวันได้ทานแต่ข้าวเปล่าๆ และรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ในวัยสาว บัดนี้ หง็อกจีง เป็นเจ้าของกระเป๋าราคาแพงจากฝรั่งเศส รถยนต์หรูจากเยอรมนี เป็นผู้ดูแลพ่อกับแม่เลี้ยงคนใหม่ และช่วยเหลือจุนเจือพี่ๆ น้องๆ ทุกคนจนอยู่กันได้

ผิดมากไหม หากเธอเลือกที่จะไม่แต่งกับผู้ชายจนๆ?

ราชินี 3,000 ดอลลาร์ รวบรวมใหม่ by Nguoi Dua Tin

3

4

5
"ตุ๊กตา" In Pattaya รวบรวมใหม่ by Nguoi Dua Tin

6

7
เสียคนในกรุงเทพฯ รวบรวมใหม่ by Nguoi Dua Tin

8

9

10