ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สะพานถูเทียมที่ทอดข้ามแม่ไซ่ง่อน ได้กลายเป็นสะพานทอดรักไปแล้ว ทุกค่ำคืนหนุ่มสาวนับร้อยๆ คู่ยึดความสูงของสะพานอันแสนโรแมนติกเป็นแหล่งพลอดรัก ทำให้สาธารณชนทั่วไปเดือดร้อน เพราะบรรดาวิหคตกหลุมรักแย่งที่ สถานการณ์นี้กำลังลุกลามไปยังที่อื่นๆ
ลานรักของหนุ่มสาวโฮจิมินห์ ยังลามลงไปถึงสวนสาธารณะเชิงสะพาน ที่เคยเป็นสถานที่พักผ่อนในยามเย็นของชาวเมือง แต่ในวันนี้หนุ่มสาวบนอานรถจักรยานยนต์ คู่ของใครของมัน เข้าครองทุกพื้นที่ ทำให้ทั่วอาณาบริเวณกลายเป็นสะพานแห่งความรัก สวนแห่งความรักและถนนแห่งความรัก สำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) กล่าว
นับตั้งแต่เปิดใช้เมื่อปีที่แล้ว สะพานถูเทียม (Thu Thiem) ได้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ ครอบครัวต่างๆ จะนั่งมอเตอร์ไซค์ หรือพาลูกๆ ขับรถขึ้นไปชมทัศนียภาพ แต่วันนี้สองข้างทางบนสะพานเต็มไปด้วย “ฉากร้อน” ของหนุ่มสาว ภาพยืนกอดจูบ เล้าโลมกัน ดูเป็นภาพธรรมดา แต่เป็นภาพบาดตาของผู้ปกครองและเป็นตัวอย่างไม่ดีสำหรับเด็กๆ เยาวชน หลายครอบครัวไม่พาลูกๆ ขึ้นที่นั่นอีก
เชิงสะพานทั้งสองฝั่งก็ไม่ต่างกัน ในยามเย็นจะเต็มไปด้วย “ภาพฮอต” เด็กหนุ่มเด็กสาวยืนเบียดเสียดกัน ราวกับอยู่ในดิสโกเธค บ้างก็กอดกันไว้ในวงแขน หรือยืนประชิดมือจับมือสบตากัน ยืนอิงแอบซบไล่กัน ในบรรยากาศที่อบอวลด้วยควันจากท่อไอเสีย ซเวินจี๋กล่าว
สะพานถูเทียมทอดจากอำเภอที่ 2 ไปยัง อ.ถูเทียม (Thu Thiem) ซึ่งเป็นอำเภอใหม่ของนครโฮจิมินห์ ทางการได้พัฒนาเขตป่าโกงกางที่เคยรกร้างว่างเปล่าให้เป็นเมือง และตั้งใจจะให้เป็นศูนย์การเงินและธุรกิจแห่งใหม่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ขณะที่ตัวเมืองขยับขยายออกไปทางด้านนั้น
ในโฮจิมินห์ยังมีอุโมงค์ลอดแม่น้ำไซ่ง่อนชื่อเดียวกัน การก่อสร้างเกือบจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์สายรอบเมืองกับฝั่งถูเทียม ไปเชื่อมกับทางหลวงสาย 1A เหนือ-ใต้ ไปยังกรุงฮานอย และ ในโฮจิมินห์ยังจะมีสะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำไซ่ง่อนแบบเดียวกับสะพานถูเทียมอีก 2 แห่ง
“เมื่อก่อนดิฉันกับสามีพาลูกๆ ขึ้นไปสูดอากาศกันบ่อยๆ แต่พักหลังๆ นี้ไม่ได้ไปอีกแล้ว เพราะเต็มไปด้วยภาพบาดตา กลัวลูกๆ จะเห็น” นางเหวียนถิงา (Nguyen Thi Nga) อาศัยอยู่ย่านถนนเจิ่นนาว (Tran Nao) ในอำเภอที่ 2 บอกับสำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยม
ไม่เฉพาะผู้ใหญ่ที่เดือดร้อน เด็กๆ ก็ตกเป็นเหยื่อของพวกที่กำลังตกหลุมรัก เคลิบเคลิ้มและไหลหลงเหล่านี้ เนื่องจากสวนสาธารณะที่เคยเป็นของเด็ก ถูกคนพวกนั้นแย่งไปจนหมด
นักสังคมวิทยา กล่าวว่า ประชากรเพิ่มขึ้นทุกปีและเมืองนี้ ประเทศนี้ มีคนหนุ่มสาวมากกว่าครึ่ง สถานที่สำหรับเรื่องของหัวใจจึงมีน้อยลงเรื่อยๆ รวมทั้งสนามอันเป็นพื้นที่วิ่งเล่นของเด็กๆ ด้วย
เมื่อต้นปีนี้สภาประชาชนโฮจิมินห์ ร่วมกับสหพันธ์หนุ่มสาวเยาวชนคอมมิวนิสต์ ได้จัดการประชุมเสวนาภายใต้หัวข้อ “เสียงของเด็กๆ” ขึ้นมา เด็กๆ หลายคนร้องทุกข์ว่า สนามของพวกเธอ ถูก “พวกพี่ๆ” แย่งไปจนหมด
ผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมวงการเสวนาเห็นพ้องกันว่า ทางการนครควรจะจัดสถานที่ให้เพียงพอ เพื่อให้พวกหนุ่มสาวไป “ยืนสบตากัน” ให้ห่างไกลจากสายตาของเด็กๆ ซเวินจี๊ กล่าว
2
3