โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายเหวียนซีงหุ่ม (Nguyễn Sinh Hùng) รองนายกรัฐมนตรี “ผู้ประจำการรัฐบาล” และ กรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ ผู้ที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyễn Tấn Dũng) ให้ความไว้วางใจตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับเลือกขึ้นเป็นประธานรัฐสภาคนใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ตำแหน่งที่มีอิทธิพลสูงสุดในประเทศ ในการประกาศผลที่มีขึ้นตอนเช้าวันเสาร์ 23 ก.ค.ศกนี้
ตามระบบและเป็นธรรมเนียมของคอมมิวนิสต์เวียดนาม ตำแหน่งประธานรัฐสภาสงวนเอาไว้ให้แก่กรมการเมืองระดับสูง ซึ่งมีลำดับอาวุธรองจากเลขาธิการใหญ่พรรคกับประธานาธิบดีเท่านั้น และ สูงกว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 1 ลำดับเสมอมา แต่ประเพณีนี้ได้เปลี่ยนไปหลังการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 11 เดือน ม.ค.ปีนี้ ซึ่งไม่มีการจัดอันดับในกรมการเมืองใหม่ตามลำดับอาวุโสอีก หากเรียงตามลำดับตัวอักษร
ระบบของเวียดนามใช้การตัดสินใจแบบรวมหมู่ โดยใช้หลักฉันทามติของกรมการเมืองทั้ง 9 คนในการตัดสินใจนโยบายหรือการแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของประเทศ และ กรณีที่จำเป็นยิ่งยวด เลขาธิการใหญ่พรรคจะเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด
ในวันเสาร์นี้การประชุมนัดแรกของรัฐสภาชุดใหม่ซึ่งเป็นชุดที่ 13 มีสมาชิก 500 คน ดำเนินมาเป็นวันที่สี่ และ นายเหวียนฝูจ็อง ซึงยังปฏิบัติืหน้าที่ประธานฯ ได้ประกาศผลการเลือกตั้งเป็นวาระแรก
สถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนาม ข่ายวิทยุกระจายเสียงของรัฐบาลที่กระจายเสียงหลายภาษาไปทั่วโลก ทั้งในระบบเอเอ็ม เอฟเอ็มและระบบคลื่นสั้น (Short Wave) ผ่านดาวเทียม รายงานเรื่องนี้มีภาคเที่ยงวันเสาร์ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” รับฟังได้ในกรุงเทพฯ
นายหุ่งกำลังจะเข้าทำหน้าที่ตลอดวาระ 5 ปีข้างหน้า สืบต่อจากนายเหวียนฝูจ็อง อดีตประธานฯ ที่ได้รับเลือกขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ในการประชุมใหญ่ครั้งล่าสุด พร้อมกันนี้ยังมีการเลือกตั้งคณะกรรมการประจำของรัฐสภาที่ประกอบด้วยสมาชิก 18 คน กับรองประธานรัฐสภาอีก 4 คน เป็นสตรี 2 คน
รองประธานฯ 3 คน เป็นรองประธานรัฐสภาชุดเดิม ซึ่งรวมทั้งนางตองถิฝอง (Tòng Thị Phóng) รองคนที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการกลางพรรค ในขณะที่นางเหวียนถิกิมเงิน (Nguyễn Thị Kim Ngân) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และ ยังเป็นเลขาธิการในคณะเลขาธิการกลางพรรค (Central Secretariat Committee) ได้รับเลือกเป็นรองประธานฯ คนใหม่
การเข้ารับตำแหน่งในรัฐสภาของ นางกิมเงิน เป็นสัญญาณบ่งว่าเจ้าตัวกำลังจะพ้นจากตำแหน่งที่กระทรวงแรงงานฯ ซึ่งตามกำหนดการประชุม รัฐสภามีวาระจะลงมติรับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือไม่รับรองรัฐมนตรีคนใดในวันที่ 3 ส.ค.
นายหุ่ง ยังเป็น 1 ใน 3 รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันจากทั้งหมด 5 คน ที่ได้รับเลือกเข้าสู่คณะกรรมการกรมการเมือง หรือคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่ ในการประชุมใหญ่พรรคครั้งล่าสุด และ ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่อยู่ในการเมืองเวียดนามมายาวนานที่สุด รวมเป็นเวลากว่า 15 ปี
.
2
ตามประวัติอย่างเป็นทางการ นายหุ่งเกิดปี พ.ศ.2489 ปัจจุบันอายุ 65 ปี เป็นชาวจังหวัดเหงะอาน บ้านเกิดของอดีตประธานโฮจิมินห์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านเศรษฐกิจ (Doctor of Science in Economics) จากอดีตสหภาพโซเวียต เพิ่งจะเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2522 รับราชการในกระทรวงการเงินเป็นระดับอธิบดีกรมและปลัดกระทรวงตามลำดับ
ประธานรัฐสภาคนใหม่ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเงินในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีฟานวันข่าย (Phan Văn Khải) สมัยแรก (2540-2545) และ เป็นรัฐมนตรีว่าการในสมัยที่ 2 (2545-2549 รวม 4 ปี) เป็นรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดเก่าเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้าร่วมในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง
นอกจากนั้น ยังเป็น “รองนายกฯ คนที่ 1” ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงการเงินอีกด้วย แม้สื่อของทางการจะรายงานปีนั้นว่า นายหุ่งเป็นรองนายกฯ ที่ได้รับคะแนนโหวตจากสมาชิกรัฐสภาน้อยที่สุดก็ตาม
ปัจจุบันเวียดนามกำลังเชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างรุนแรง เป็นประเทศที่อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านเอเชีย ปัญหาในระบบการเงินของปกระเทศทำให้เงินสกุลต่างประเทศหายไปจากท้องตลาด สร้างความลำบากให้แก่ธุรกิจภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกและนำเข้าสินค้า
สื่อของทางการรายงานในสัปดาห์นี้ว่า การแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 17% เมื่อเดือนที่แล้ว เป็นภาระเร่งด่วนที่สุดของรัฐสภาชุดใหม่
หลายปีมานี้รัฐสภาเวียดนามได้พิสูจน์ตัวเองว่า ไม่ได้เป็นเพียง “สภาตรายาง” เช่นเมื่อก่อนแต่ได้ทำหน้าที่กลั่นกรองอย่างละเอียด จนสร้างความลำบากให้แก่การบริหารของรัฐบาลมาหลายครั้ง
ในเดือน ส.ค.2553 รัฐสภาได้ลงมติโหตคว่ำโครงการรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้มูลค่า 63,000 ล้านดอลลาร์ โดยวิตกว่าจะสร้างปัญหาให้แก่โครงสร้างหนี้ของประเทศ และ กระทบต่อโครงการพัฒนาอื่นๆ ที่มีความเร่งด่วนยิ่งกว่า พร้อมทั้งสั่งให้รัฐบาลไปศึกษาและจัดทำแผนแม่บทโครงการใหม่อีกด้วย.
ใครเป็นใคร by AFP, Reuters
3
4
5
6