xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามจับได้เป็นๆ ฉลามน้อย เชื่อตัวการไล่งับนักว่ายน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>คราวนี้คงไม่ผิดตัว--  เจ้าตัวเล็กถูกจับขึ้นมาตัวเป็นๆ จากอ่าวท่องเที่ยวในคืนวันจันทร์ ฐานต้องสงสัยเป็น ปากร้าย ที่ไล่งับนักว่ายน้ำไป 6 ราย</font><i><FONT color=#000033>ระหว่างปี 2552-2553 </i></font> จนทำให้กิจกรรมว่ายน้ำในอ่าวเมืองกวีเญิน (Quy Nhon) ต้องระงับไป แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่มีหลักฐานที่จะปรักปรำ ต้องนำกลับไปวิจัยเพื่อพิสูจน์เทียบเคียงอีกครั้งที่สถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจาง.-- ภาพ: เตื่อยแจ๋.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสมุทรศาสตร์แห่งเมืองญาจางกลุ่มหนึ่ง สามารถจับปลาฉลามน้่ำหนักราว 40 กก.ขึ้นจากอ่าวท่องเที่ยวของ จ.บี่งดิง (Binh Dinh) ได้ 1 ตัวคืนวันจันทร์ 11 ก.ค. และเชื่อกันว่าจะเป็นหนึ่งในตัวการที่เคยไล่งับนักว่ายน้ำ ทำให้มีผู้บาดเจ็บไปหลายรายในช่วงปี 2552-2553

ฉลามน้อยถูกจับขึ้นมาจากอ่าวเมืองกวีเญิน (Quy Nhon) ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัด ที่มีหาดทรายสวยงามกับอ่าวอันเงียบสงบ นักท่องเที่ยวทั้งเวียดนามและเทศนิยมลงว่ายน้ำกัน รวมทั้งชาวเมืองผู้สูงอายุที่นิยมออกว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกายด้วย

กิจกรรมว่ายน้ำต้องงดมาข้ามปีนับแต่มี “ปากลึกลับ” ใต้น้ำไล่งับ จนมีคนได้รับบาดเจ็บไปอย่างน้อย 6 ราย ระหว่างเดือน ก.ค.2552 - พ.ค.2553 ในช่วง “1 ปีแห่งความสยอง”

เจ้าฉลามตัวเล็กลำตัวยาวเพียงประมาณ 1 เมตร ความกว้างของปากบนวัดได้ 16.5 ซม เท่าๆ กับรอยถูกกัดบนขาหรือแขนผู้เคราะห์ร้ายก่อนหน้านี้ ผู้ต้องสงสัยเป็นวายร้ายใต้น้ำตัวนี้ ถูกส่งไปยังสถาบันสมุทรศาสตร์ เพื่อทำการศึกษาวิจัยต่อไป

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ นายเหวียน-ฟี-อวี-หวู (Nguyen Phi Uy Vu) นักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมในทีมจับปลาฉลามกล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกที่จับผู้ต้องสงสัยขึ้นจากอ่าวได้ตัวเป็นๆ นับตั้งแต่มีนักว่ายน้ำคนถูกงับในปี 2552 ด้วยความร่วมมือกับชาวประมงในท้องถิ่น

สถาบันวิจัยอีกแห่งหนึ่งกับสถาบันสมุทรศาสตร์ญาจาง ได้ร่วมกันตั้งทีมไล่ล่าและวิจัยขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่แทนตำรวจซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ แต่ความพยายามหลายครั้งในการล่อเจ้าฉลามตัวเล็กเข้ากรุงใต้น้ำ ไม่เคยประสบความสำเร็จ

ช่วง 2 ปีมานี้ทางการ จ.บี่งดิง เองจับฉลามขึ้นมาได้ 5 ตัวในอาณาบริเวณอ่าวท่องเที่ยว รวมทั้งตัวหนึ่งน้ำหนักเกือบครึ่งตัน ซึ่งล้วนมีขนาด "ใหญ่เกินไป" เกินกว่าจะเป็น "ปลาต้องสงสัย" ที่ทำร้ายคน

ก่อนหน้านั้นชาวประมงในจังหวัดใกล้เคียงได้รวมพลังกันไล่ล่าฉลาม รวมทั้งตัวหนึ่งน้ำหนักราว 1 ตัน ถูกล่าขึ้นมาจากบริเวณนอกอ่าว เป็นการล่าเพื่อเอาเงินรางวัลนำจับ แต่ก็ได้ข้อสรุปว่า ฉลามเคราะห์ร้ายขนาดมหึมาเกินกว่าจะต้องสงสัย เนื่องจากรอยถูกกัดและถูกงับที่ผ่านมาเป็นแผลยาวระหว่าง 16-19 ซม.เท่านั้น เตื่อยแจ๋กล่าว

สัปดาห์ที่แล้วชาวประมงจับฉลามได้อีกตัวยาวเมตรเศษ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เวียดนามกล่าวว่าเป็นฉลามขาวขนาดเล็ก และเป็นพันธุ์ดุร้ายตัวแรกที่พบในอ่าวกวีเญิน แต่ขนาดของฉลามเคราะห์ร้ายก็ยังใหญ่เกินที่จะเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ดี

ผลงานครั้งล่าสุด by VNExpress

<bR><FONT color=#000033>เหยื่อทั้ง 2 รายนี้โดนไล่งับเวลาไล่เลี่ยกันในเดือน พ.ค.2553 แม้จะไม่ถึงกับสาหัส แต่นั้นมาก็ไม่มีใครอยากจะลงเล่นน้ำอีก รอยแผลไม่ได้ใหญ่โตอะไร ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นผลงานของปลาขนาดที่ไม่ใหญ่มาก และ ก็มีเพียงฉลามเท่านั้นที่เข้าหากินใกล้ฝั่งแบบนี้และมีปากที่จะสร้างผลงานได้ขนาดนี้.-- ภาพ: VNExpress. </b>
กำลังโหลดความคิดเห็น