.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่เวียดนามงงไม่หาย แม้จะหามาตรการป้องกันอย่างไร ปลาฉลามก็ยังคงแวะเวียนเข้าไปในอ่าวท่องเที่ยวในภาคกลางสม่ำเสมอ และในช่วงห่างกันไม่ถึง 2 สัปดาห์ จับได้อีก 2 แม้จะตัวเล็กก็จริง แต่คราวนี้เป็นฉลามขาวล้วนๆ ซึ่งทำให้อ่าวที่นักท่องเที่ยวเคยพลุกพล่าน กลับเงียบเหงา กลายเป็นอ่าวฉลาม
ฉลามขาว (Great White Shark) ได้ชื่อเป็นพันธุ์ดุร้ายที่สุดในโลก แม้มันจะไม่ได้ดุดัน หรือฉลาดหลักแหลมอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ “Jaws” ซึ่งเคยทำให้นักเล่นน้ำทั่วโลกสยดสยองเมื่อกว่า 20 ปีก่อนก็ตาม แต่ 2 ตัวที่พบในอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) จ.บี่งดิง (Bình Định) ในปลายเดือน พ.ค. กับต้นเดือนนี้ เพียงพอทำให้นักท่องเที่ยวขวัญหนีดีฝ่อ ไม่ยากลงไปเล่นน้ำเหมือนเมื่อก่อน สื่อของทางการกล่าว
ชาวประมงจับฉลามขาวขนาดเล็กได้ล่าสุดในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยติดอวนลากขึ้นจากอ่าว ถึงแม้จะยาวเพียง 1.5 เมตร ชั่งน้ำหนักได้เพียง 60 กก. แต่ผู้ที่พบเห็นก็ตกใจ เมื่อรู้ว่าเป็นฉลามขาว เนื่องจากไม่เคยมีผู้ใดจับได้ฉลามพันธุ์นี้มาก่อนในบริเวณอ่าวกวีเญิน
เมื่อข่าวสะพัดออกไป ทำให้ชาวบ้านร้านตลาดตามไปดูฉลามขาวด้วยตาตนเองจนเนืองแน่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ “เดิ๊ตเหวียด” (Báo Đất Việt) ภาษาเวียดนามรายงาน
ก่อนหน้านี้ ในตอนเช้าวันที่ 27 พ.ค. ฉลามอีกตัวติดอวนลากปูของชาวประมง ขณะอยู่ห่างชายหาดราว 200 เมตรเท่านั้น เมื่อนำขึ้นฝั่งจึงพบว่า เป็นฉลามขาว และนั่นคือยามเช้าที่มักจะมีนักเล่นน้ำลงไปว่ายน้ำออกกกำลังกายเสมอๆ
“เมื่อมีตัวเล็ก มันก็อาจจะมีตัวโตเช่นกัน” นายเหวียนวันหาย (Nguyễn Văn Hải) เจ้าของเรือหาปูวัย 36 ปีกล่าว
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนนึกถึงเหตุการณ์ในเดือน ก.ค.2552 ซึ่งชาวประมงจากจังหวัดใกล้เคียงล่าฉลามขนาดใหญ่ขึ้นจากอ่าวกวีเญินได้ถึง 2 ตัว ตัวแรกหนักราว 1 ตัน ต่อมาไม่นาน ก็ลากขึ้นจากน้ำอีกตัวหนักกว่าครึ่งตัน แม้ว่าจะไม่ใช่ฉลามขาว แต่มันก็ทำร้ายคนได้หากตกใจ หรือหิวจัด ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจางกล่าว
.
.
หลายปีมานี้ ชาวประมงจับได้ปลาฉลามขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้ทางการ จ.บี่งดิง ต้องย้ายแพปลาออกไปให้ห่างจากอ่าวท่องเที่ยว และห้ามเลี้ยงปลาในกระชังภายในบริเวณอ่าวเด็ดขาด โดยเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นเหยื่อล่อให้ฉลามเข้าไปหากินใกล้ฝั่ง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ทำอะไรไปมากแล้ว ชาวประมงยังจับฉลามได้เรื่อยๆ
เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮว่า (Khánh Hòa) ที่อยู่ใต้ลงไป ซึ่งช่วยทางการเมืองกวีเญิน ศึกษาปัญหาปลาฉลามได้นำลวดตาข่ายลงไปติดตั้งรอบๆ อ่าว โดยเชื่อว่าจะกันฉลามไม่ให้เข้าไปในเขตที่ผู้คนลงเล่นน้ำได้
แต่นอกเขตลวดตาข่ายออกไป ปลาฉลามก็ยังคงชุกชุม หนังสือพิมพ์ออนไลน์ภาษาเวียดนามกล่าว
ห่างออกไปจากหาดกวีเญินราว 2 ไมล์ทะเล ใน 2 สัปดาห์แรกเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เรือประมงลำเดียวลากฉลามเข้าฝั่งได้ถึง 6 ตัว ในการออกหาปลา 6 ครั้ง และเมื่อฉลามติดอวนก็จะต้องแล่นกลับเข้าฝั่งเพื่อจัดการกับมันก่อน จึงจะกลับออกไปลากอวนต่อได้ ซึ่งทำให้เสียเวลา และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้อีก
ชาวประมงในแถบนี้จึงพากันเกลียดฉลาม แต่หลายคนก็ชอบครีบของมันที่เรียกว่า "หูฉลาม" เพราะขายได้ราคาดี สื่อออนไลน์กล่าว
ช่วง 2 ปีมานี้ ชาวประมงจับฉลามขนาดเล็กน้ำหนัก 20-50 กก.ขึ้นจากอ่าวแห่งนี้ได้นับร้อยตัว หลังจากมีนักว่ายน้ำถูก “สัตว์น้ำลึกลับ” ไล่งับ หรือถูกทำร้ายไปนับสิบคนก่อนหน้านั้น
นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันสมุทรศาสตร์ฯ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเพราะเหตุใด ปลาฉลามจึงชอบอ่าวกวีเญินมากเป็นพิเศษ แต่ก็หวังว่าลวดตาข่าย จะสามารถกันฉลามขนาดใหญ่ได้ หากปลายักษ์พวกนั้นจะกลับไปที่นั่นอีก.