ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กระทรวงขนส่งเวียดนามได้ให้การเห็นชอบข้อเสนอของเวียดนามแอร์ไลนส์ ในการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งในปัจจุบันเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้เป็นไปตามแผนการในเฟสที่ 1 ในแผนแม่บทการพัฒนายกระดับสายการบินแห่งชาติ และ ยังสั่งให้จัดทำแผนการละเอียดในการลงทุน รวมทั้งแผนการชำระหนี้ด้วย สำนักข่าวของทางการรายงาน
การซื้อเครื่องบิน “ซูเปอร์จัมโบ้” จากค่ายยุโรป อยู่ในแผนขยายฝูงบินให้มีจำนวน 115 ลำ ภายในปี 2558 ในแผนการพัฒนาให้สายการบินแห่งชาติให้ขึ้นสู่อันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหมายถึงการต้องแข่งขันกับการบินไทยและสายการบินแห่งชาติของมาเลเซียโดยตรง
กระทรวงขนส่งได้เสนอเรื่องนี้เพื่อขออนุมัติในหลักการจากรัฐบาล ซึ่งได้ให้การสนับสนุนแผนแม่บทในการพัฒนายกระดับเมื่อปี 2549 ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้เวียดนามแอร์ไลนส์จัดทำแผนการโดยละเอียด เพื่้อให้การลงทุนมีสัมฤทธิ์ผล ตลอดจนแผนการตลาดและการจ่ายค่าเครื่องบินและยังสั่งให้การท่าอากาศยานซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดดูแลเรื่องความพร้อมของสนามบินใหญ่แห่งต่างๆ เพื่อรองรับ A380 ด้วย
ตามแผนแม่บทดังกล่าวสายการบินเวียดนามจะมีเครื่องบินใช้งานจำนวน 170 ลำ ในปี 2563 แต่เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยแผนการจัดซื้อเครื่องบิน “ซูเปอร์จัมโบ้” เช่นเดียวกับสิงคโปร์แอร์ไลนส์กับสายการบินแห่งชาติของไทย
เป็นที่ทราบกันดีว่าแอร์บัสได้เสนอขาย A380 ให้เวียดนามมาตั้งแต่ปี 2550 ปีที่เครื่องบินรุ่นนี้ไปแวะลงจอดท่าอากาศยานกรุงฮานอยเพื่อแนะนำตัวเอง
สำนักข่าวซเวินจี๊รายงานก่อนหน้านี้ว่า พร้อมๆ กับ A380 เวียดนามแอร์ไลนส์ ยังมีแผนจัดซื้อเครื่องบินบอมบาร์เดียร์ (Bombardier) “ซีรีส์ C” ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ของค่ายแคนาดาด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับจำนวนที่จะซื้อ และ เป็นไปได้เช่นกันว่า อาจจะต้องซื้อโบอิ้ง 747-8 ของค่ายสหรัฐฯ อีกจำนวนหนึ่ง
บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐฯ ได้นำโบอิ้ง 747-8 “อินเตอร์คอนติเนนตัล” ออกโชว์ในงานปารีสแอร์โชว์ที่เลอบูเฌต์ (Le Bourget) เมื่อเดือนที่แล้ว แต่เวียดนามยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการจัดซื้อ แม้สำนักข่าวออนไลน์บางแห่งจะรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังยายามเจรจาขายให้ก็ตาม
.
ตามรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ ปัจจุบันเวียดนามแอร์ไลนส์มีเครื่องบินในฝูงทั้งหมด 68 ลำ รวมทั้งฟ็อคเกอร์-70 กับ ฟ็อคเกอร์-100 ช่วง 2 ปีมานี้ได้ปลดประจำการเอทีอาร์รุ่นเก่าอีกกว่า 10 ลำ และ ปีที่แล้วเริ่มนำเอา ATR72-500 ที่ซื้อใหม่ในช่วงปี 2550-2551 เข้าแทนที่
ตามแผนการพัฒนา 10 ปี เมื่อสิ้นสุดระยะที่ 1 เวียดนามแอร์ไลนส์จะมีทั้งโบอิ้ง 787-9s ที่สั่งซื้อไป 2 ลอต ในปี 2548 และ 2550 รวม 12 ลำ กับ A350-XWB900 เครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นใหม่ของค่ายยุโรป ที่ขึ้นสายการผลิตในปี 2552 เวียดนามเซ็นซื้อรวม 12 ลำ ทั้งหมดจะเป็นกำลังหลักในการบินข้ามทวีป แทนโบอิ้ง 777-200ER กับ A330 ในปัจจุบันที่มีทั้งเครื่องซื้อและเครื่องเช่า
ตามแผนพัฒนาในเฟสที่ 1 เวียดนามแอร์ไลนส์ยังจะมีเครื่องบินเล็กบินระยะใกล้-กลาง อีกหลายรุ่นรวมทั้ง A321s กับ A320s และ ATR-72s กับบอมบาร์เดีย c ซีรีส์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เวียดนามซื้อเครื่องบินจากผู้ผลิตในแคนาดา
ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เวียดนามเซ็นซื้อ A321s ไปแล้ว 30 ลำ กับ ATR ซึ่งผลิตในฝรั่งเศสโดยบริษัทร่วมทุนยุโรปอีกจำนวน 14 ลำ
ความเคลื่อนไหวของเวียดนามแอร์ไลนส์ มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) ประกาศแผนการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินจำนวน 37 ลำ มูลค่า 3,900 ล้านดอลลาร์ โดยซื้อโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 6 ลำ กับ A350-900 อีก 4 ลำ และ A321-200s จำนวน 5 ลำ รวมราคา 1,600 ล้านดอลลาร์ กำหนดส่งมอบระหว่างปี 2557-2560
การบินไทยยังจะเช่า “ดรีมลายเนอร์” อีก 8 ลำ กับแอร์บัสรุ่นอื่นๆ อีก 14 ลำ รวมเป็น 22 ลำ กำหนดส่งมอบระหว่างปี 2555-2560 ทั้งหมด ในนั้นจำนวนหนึ่งจะเป็นเครื่องบินสินค้า
ปัจจุบันสายการบินแห่งชาติของไทยมีเครื่องโบอิ้งกับแอร์บัสรุ่นต่างๆ ในฝูงรวม 97 ลำ การจัดซื้อจัดหาครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นเพียง 3 ปี หลังจากที่ซื้อและเช่ากว่า 30 ลำในปี 2551 ขณะที่ขาย A340 ออกไปจากฝูงทั้งหมด
การบินไทยใช้โบอิ้ง 747 กับ A300 เป็นหลัก ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่าใช้งานมานาน ทั้งสองค่ายเลิกผลิตแล้ว ขณะเดียวกันก็กำลังรอการส่งมอบเครื่อง A380 จำนวน 6 ลำ ที่เซ็นซื้อเมื่อปี 2546 และ ขอเลื่อนการรับมอบในปี 2552 ด้วยปัญหาการเงิน
ปัจจุบันสิงคโปร์แอร์ไลนส์ยังเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนเครื่องบินในฝูง 108 ลำ และ กำลังรอส่งมอบอีก 48 และยังเป็นสายการบินแห่งแรกๆ ที่ได้รับมอบ A380 ในล็อตปฐมฤกษ์
เวียดนามแอร์ไลนส์จะได้รับมอบโบอิ้ง 787-8 และ 9 ในล็อตแรกๆ เช่นกัน เครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดของโบอิ้งจะทำให้แผนการบินไปยังสหรัฐฯ ที่เตรียมการมาตั้งแต่ปี 2548 กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ ปัจจุบันเส้นทางบินเวียดนาม-สหรัฐฯ ผูกขาดโดยยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ กับ เดลต้าแอร์ไลนส์
โบอิ้งประกาศเลื่อนการส่งมอบ “ดรีมลายเนอร์” มาหลายครั้ง และ ล่าช้ามา 3 ปี แต่ยืนยันจะส่งให้ได้ในไตรมาสที่ 3 ขณะนี้ การนำ 787 ออกปรากฏตัวในปารีสแอร์โชว์อีกครั้งเดือนที่แล้วโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ แสดงให้เห็นว่าโบอิ้งพร้อมแล้ว
