ซินหัว - รายงานของสหประชาชาติ ระบุว่า ลาวมีพื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้นถึง 58% จากทั้งหมด 11,400 ไร่ ในปี 2552 เป็น 18,000 ไร่ ในปี 2553
รายงานยาเสพติดโลกปี 2554 ที่เผยแพร่โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าลาวมีพื้นที่ปลูกฝิ่นมากกว่าในหลายๆปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2548 และเพิ่มขึ้นอย่างมากหากเทียบกับปี 2550 ที่มีพื้นที่ปลูกฝิ่นน้อยที่สุดแค่ 9,000 ไร่
“ยาเสพติดเป็นประเด็นปัญหาระดับนานาชาติระหว่างพรมแดนและลาว ดูเหมือนว่า จะรับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากการผลิตเกิดขึ้นนอกพรมแดนประเทศ” นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาว กล่าวในสัปดาห์ก่อน กับหน่วยงานของสหประชาชาติ องค์กรระหว่างประเทศและสื่อท้องถิ่น ในกรุงเวียงจันทน์
นายสุบัน สะลิดทิลาด ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลและควบคุมยาเสพติดแห่งชาติลาว ระบุว่า ชาวลาวประมาณ 40,000 คน ติดยาบ้า และหนุ่มสาวชาวลาวประมาณ 1.4 ล้านคน มีความเสี่ยงสูงที่จะเสพยา และว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดเพราะความอยากรู้ และขาดความรู้เกี่ยวกับผลเสียของยาเสพติด ดังนั้น พวกเขาต้องได้รับการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
นายสุบัน ยังเพิ่มเติมว่า ในระยะยาวยาเสพติดจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคง เสถียรภาพ และการพัฒนาสังคม-เศรษฐกิจของชาติ ดังนั้นพรรคและรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างจริงจังที่จะต่อสู้กับความชั่วร้ายทางสังคมนี้
นายเล็ก บุนวาด ผู้แทน UNODC ในลาว กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว ว่า ลาวเผชิญกับการคุกคามอย่างรุนแรงจากพื้นที่ปลูกฝิ่นที่กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง และการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการขยายการผลิตฝิ่นผิดกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญและยังยึดยาเสพติได้มากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
นายเล็ก กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการยึดเฮโรอีนได้เพิ่มขึ้นถึง 380% จาก 17.5 กก. ในปี 2551 เพิ่มเป็น 84.34 กก.ในปี 2553 ส่วนยาบ้ายึดได้เพิ่มขึ้นจาก 1.23 ล้านเม็ด ในปี 2551 เป็น 24.5 ล้านเม็ดในปี 2553 เฉพาะยาเสพติดที่ยึดได้นั้นมีมูลค่าเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ และว่า รัฐบาลลาวควรเน้นแก้ไขปัญหายาเสพติด หากต้องการดำเนินตามแผนการพัฒนาของประเทศ และย้ำว่า UNODC ให้การสนับสนุนต่อรัฐบาลลาวในการดำเนินการตามแผนแม่บทในการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ
ในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลาวได้ทำลายเฮโรอีนไปทั้งหมด 77 ห่อ ยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด โคเคน 250 กรัม กัญชาแห้ง 2,224 กก. ฝิ่น 7.7 กก. และยาแก้หวัดที่มีสารตั้งต้นทางเคมีสำหรับผลิตยาบ้าอีก 1.4 ล้านเม็ด ในพิธีเผาทำลายยาเสพติดเนื่องในวันต่อต้านการเสพและค้ายาเสพติดสากล
ความยากจนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนจนเริ่มปลูกฝิ่นในลาว เนื่องจากราคาฝิ่นเพิ่มสูงขึ้นจาก 1,327 ดอลลาร์ต่อ กก.ในปี 2552 เป็น 1,670 ดอลลาร์ต่อ กก.ในปี 2553
รัฐบาลลาวที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNODC ได้พัฒนาแผนแม่บทในการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติระหว่างปี 2552-2556 เพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆ และแผนแม่บทชุดนี้ได้รับการอนุมัติโดยรัฐบาลในปลายปี 2552 และโครงการต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก UNODC ในลาวได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การพัฒนาทางเลือกนั้นประสบความสำเร็จแต่ความพยายามดังกล่าวจะต้องขยายต่อไปอย่างยั่งยืน