เอเอฟพี - ทำเนียบประธานาธิบดีเบนิกโญ อาคิโน ของฟิลิปปินส์ กล่าววันนี้ (13 มิ.ย.) ว่า ทางการได้เปลี่ยนชื่อเรียก "ทะเลจีนใต้" เป็น "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนเหนือน่านน้ำพิพาท
ฟิลิปปินส์และจีน พร้อมด้วยบรูไน มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ ที่เป็นที่ตั้งของหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ที่เชื่อว่าเต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันและก๊าซ
โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมหันมาใช้คำจำกัดความเรียกพื้นที่ดังกล่าวว่า ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก แทนการใช้ชื่อว่าทะเลจีนใต้ และทำเนียบประธานาธิบดีได้ตัดสินใจดำเนินตามเช่นกัน
"มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะย้ำเตือนพวกเขา เมื่ออ้างถึงทะเลจีนใต้ด้วยคำว่าทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" นายเอ็ดวิน ลาเซียด้า กล่าว และว่าประเทศอื่นๆ ก็ปฏิบัติคล้ายกัน
"ทุกชาติต่างเรียกทะเลจีนใต้ตามสิ่งที่พวกเขารับรู้ แต่เวียดนามเรียกทะเลส่วนนั้นว่าทะเลตะวันออก ดังนั้นเรา (ฟิลิปปินส์) โดยธรรมชาติก็ควรเรียกว่าทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" โฆษกทำเนียบฯ คนเดิม กล่าว
นายเอ็ด มาลายา โฆษกกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า หน่วยงานของเขาเป็นแห่งแรกที่ใช้ชื่อ "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" เพื่ออ้างถึงน่านน้ำบริเวณดังกล่าวอย่างเปิดเผยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. และก่อนหน้านี้เคยใช้คำจำกัดความดังกล่าวในการสื่อสารกับจีน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้กล่าวหาว่ากองทัพจีนอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุหรือการเผชิญหน้ากับฟิลิปปินส์ในและรอบบริเวณหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ถึง 7 ครั้ง แต่ทูตจีนกล่าวว่ารายงานเหตุดังกล่าวเป็นข่าวลือหรือเป็นการกล่าวเกินจริง แต่ยืนยันว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสแปร็ตลีย์
ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาค ไต้หวันได้ประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า วางแผนที่จะประจำการเรือยิงจรวดในทะเลจีนใต้และรถถังบนเกาะบางแห่ง ขณะที่เวียดนามได้จัดการซ้อมรบทางทะเลด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้วันนี้ (13 มิ.ย.) เช่นกัน
นายลาเซียด้า กล่าวว่า ฟิลิปปินส์จะเพิ่มการป้องกันในพื้นที่เพื่อให้สามารถลาดตระเวนและปกป้องเขตแดนของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.