ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นักอนุรักษ์กับเจ้าหน้าที่วนอุทยานเวียดนาม ได้เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจ ในแต่ละปีเจ้าหน้าที่รักษาป่าได้พบบ่วง ราว 5,000 ชิ้นวางดักวัวป่ากับหมี ในเขตป่าสงวนแห่งชาติก๊าตเตียน (Cat Tien) ผืนป่ากว้างอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งกินพื้นที่ถึง 3 จังหวัด ตั้งแต่โด่งนาย เลิมโด่ง และ จ.บี่งเฟื๊อก
เจ้าหน้าที่ยังพบซากกระทิงที่ติดบ่วงและถูกชำแหระจำนวน 10 ตัว ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา
ปีนี้กระทิงฝูงใหญ่ได้กลับไปปรากฏตัวในเขตป่าสงวนก๊าตเตียนอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่วนอุทยานกับนักอนุรักษ์ได้ร่วมกันออกค้นหาติดตาม จนพบในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับทุกฝ่าย รวมทั้งพรานป่า พวกนักล่าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายด้วย
พรานป่าจะชอบกระทิงเพศผู้เพราะขายได้ราคาดี เมื่อติดบ่วงพวกพรานจะตัดที่คอของมัน เพื่อนำเอาส่วนหัวที่มีเขาแหลมโง้งสวยงาม กระโลกของกระทิงกับเขาสวยเป็นสิ่งที่ผู้มีอันจะกินนิยมหาไว้ประดับบารมีกันมาก และ มักจะไม่เกี่ยงราคา เนื่องจากเป็นของหายาก
น้ำดีของกระทิงเป็นยาอายุวัฒนะ ราคาแพงกว่าดีหมีหลายเท่าตัว โดยไม่ต้องพูดถึงเนื้อของกระทิง ซึ่งหากสามารถลักลอบขนออกจากป่าได้ ก็จะกลายเป็นเป็นเมนูราคาแพงในร้านอาหารป่า
ช่างภาพในนครโฮจิมินห์คนหนึ่งใช้เวลาตลอด 2 ปีมานี้ ออกค้นหาสัตว์ป่าที่แสนสง่างามโดยร่วมทีมไปกับเจ้าหน้าที่รักษาป่าในเขตก๊าตเตียน
เขาค่อนข้างผิดหวังที่ไม่พบแรดนอเดียวพันธุ์ชวาซึ่งเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว และมี่อยู่ในเฉพาะป่าแห่งนี้ แต่ก็มีความสุขอย่างยิ่งที่พบกระทิงฝูงใหญ่เมื่อวันที่ 10 เม.ย. และ ถ่ายภาพไว้ได้ ซึ่งเมื่อนับดูแล้วมีจำนวนทั้งหมด 40 ตัว หลังจากไม่มีใครได้พบมาตั้งแต่ปี 2549
แต่จะทำอย่างไรจึงจะช่วยพิทักษ์สัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่โตและรูปร่างแสนสง่างามนี้ให้พ้นจากการลอบยิงหรือวางกับดักโดยพวกนักล่าผิดกฎหมายได้ ก็ยังเป็นคำถามสำคัญ
นายฟัมแทงเญิน รองผู้อำนวยการสำนักงานอนุรักษ์ป่าก๊าตเตียน กล่าวว่าเมื่อปี 2525 เจ้าหน้าที่หน่วยงานนี้ ช่วยกระทิงเพศเมียน้ำหนักราว 400 กก.เอาไว้ตัวหนึ่งหลังติดบ่วงของพรานป่า ในจุดที่อยู่ห่างจากแค้มป์ของเจ้าหน้าที่ราว 10 กม. เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงร้องที่ผิดปรกติจึงติดตามแกะรอยไปจนพบ ช่วยกันจับขาหลังไว้แน่นๆ ก่อนจะตัดเชือกขนาดใหญ่ที่รัดอยู่ และกระทิงได้รับอิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง
ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ป่าสงวนก๊าตเตียน เจิ่นวันแทง (Tran Van Thanh) กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกปีในป่าก๊าตเตียน ซึ่งปี 2549 และ 2550 เจ้าหน้าที่ได้พบซากกระทิงที่ติดบ่วงปีละตัว และเพิ่มเป็น 3 ตัวในปี 2551
แต่ทั้ง 3 กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้สอบสวนสืบสวนอะไรต่อไป เพราะว่ากระทิงไม่ได้อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แรด หรือเสือ นายแทงกล่าว
ไม่เพียงแต่จะถูกไล่ล่าเท่านั้น กระทิงกับสัตว์ป่าอีกนานาชนิดกำลังสูญเสียถิ่นที่อาศัยไปที่ละน้อยๆ จากการลักลอบตัดไม้ การถางป่าทำไร่เลื่อนลอย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นการทำลายถิ่นอาศัยของพวกมันอย่างถาวร
ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างเขื่อนโด่งนาย 3 และ 4 ในเขตป่าสงวนและกำลังมีการตัดถนนความยาว 10 กม.เข้าไป ซึ่งแน่นอนว่ากำลังจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าอย่างสำคัญยิ่ง
"มันกำลังจะส่งผลกระทบต่อถิ่นที่อาศัยของกระทิง พวกนี้อาจจะอพยพกลับไปป่ากัมพูชาและลาวอีก" นายแทงกล่าว
รัฐบาลฝรั่งเศสให้ทุน 816,000 ดอลลาร์ เพื่อช่วยเวียดนามอนุรักษ์กระทิงในป่าสงวนก๊าตเตียนระหว่างปี 2549-2552 แต่ถ้าหากการข่มขู่คุกคามต่อสัตว์ป่ายังดำเนินต่อไปเช่นทุกวันนี้ การพิทักษ์รักษาพวกมันที่ทำกันมาหลายปีก็แทบจะไม่มีความหมายอะไร นายแทงกล่าว.
(เขียนขึ้นใหม่จากรายงานหัวเรื่อง "การติดตามหาวัวป่า" จำนวน 2 ตอนโดยหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋).