ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นักอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าทั่วโลกพากันเศร้าสลด เมื่อกองทุนเพื่อสัตว์ป่าโลก หรือ World Wildlife Fund ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า แรดตัวสุดท้ายในเวียดนามได้ตายลงแล้ว และนั่นคือ การสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแรดนอเดียวพันธุ์ชวา
แต่ก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์เวียดนามที่ไม่เชื่อเช่นนั้น และยังหวังว่าจะพบแรดตัวอื่นๆ ที่เชื่อว่ายังหลงเหลืออยู่
ศ.ดร.ดั่งฮวีหวี่ง (Dang Huy Huynh) ประธานสมาคมสัตว์เวียดนามเป็นผู้ออกยืนยันเรื่องนี้ โดยกล่าวว่าในปี 2554 และ 2555 ซึ่งตนเองร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งได้ออกสำรวจในเขตก๊าตหล็อก (Cat Loc) ของป่าสงวนก๊าตเตียน (Cat Tien) และพบรอยเท้าของแรดนอเดียวเป็นจำนวนมาก
คณะได้ทำเป็นแบบโดยใช้ปูนปลาสเตอร์เอาไว้ และตั้งแสดงไว้ที่สำนักงานดูแลป่าสงวนมาจนกระทั่งบัดนี้
“ศึกษาจากรอยเท้าซึ่งรวมทั้งรอยหนึ่งซึ่งเป็นของลูกแรด ทำให้เชื่อว่าในป่าสงวนก๊าตเตียนจะมีแรดชวาอยู่ 3-5 ตัว” ดร.หวี่ง กล่าว
“เมื่อกองทุนเพื่อสัตว์ป่าฯ ประกาศว่าแรดชวาที่ถูกยิงตายโดยพรานป่าเมื่อปีที่แล้วเป็นตัวสุดท้าย ผมก็ยังหวังว่ายังมีแรดชวาเหลืออยู่ในเวียดนามอีก.. ผมได้ยืนยันกับผู้เชี่ยวชาญว่าสมควรจะต้องค้นหาต่อไปอีก เพื่อหาความจริงให้ได้” นักวิทยาศาสตร์คนเดียวกันกล่าว
แต่ผู้เชี่ยวชาญของนานาชาติ กลับมองว่า รอยเท้าหล่อปูนปลาสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่เล็กต่างกันนั้นอาจจะเป็นของแรดตัวเดียวกัน สภาพเฉพาะในแต่ละท้องถิ่นที่พบอาจทำให้ขนาดผิดเพี้ยนไป ซึ่ง ดร.หวี่ง กล่าวว่า เป็นคำอธิบายที่มีเหตุมีผล แต่ก็ยังสมควรจะต้องค้นหาต่อไปอยู่ดี
“สัตว์ป่าหลายชนิดถูกค้นพบอีกครั้ง แม้จะประกาศสูญพันธุ์ไปหลายปีก่อนหน้านั้น” ดร.หวี่ง กล่าว
ตามข้อมูลของนักวิชาการผู้นี้ มีการพบโครงกระดูกแรดชวาตัวแรกในป่าสงวนก๊าตเตียน จ.โด่งนาย (Dong Nai) เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งหมายความว่าที่ผ่านมามีการพบโครงการกระดูกแรดชนิดนี้รวม 2 ตัวแล้ว ทางการควรจะเสาะหาข้อมูลต่างๆ จากราษฎรในท้องถิ่นต่างๆ รอบๆ ป่าสงวนให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาชนชาติส่วนน้อยต่างๆ ที่อาจจะให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแรดตัวอื่นๆ ได้
.
2
3
นายฝั่มวันอาน (Pham Van An) หัวหน้าสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบท จ.เลิมโด่ง (Lam Dong) ซึ่งส่วนหนึ่งของป่าสงวนก๊าตเตียนครอบคลุมถึง ได้สนับสนุนทฤษฎีของ ดร.หวี่ง เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอจะประกาศให้แรดชวาในเวียดนามสูญพันธุ์
ดร.เลซวนแก่ง (Le Xuan Canh) ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรชีวะวิทยาและนิเวศวิทยาเวียดนาม มีความเห็นเช่นเดียวกันคือ สมควรที่จะมีการศึกษาวิจัยให้มากกว่านี้ตามข้อเสนอของ ดร.หวี่ง
“ตามสถิตินั้นเคยมี่แรกดชวาอย่างย้อย 3 ตัวอาศัยในป่าเวียดนาม” ดร.แก่ง กล่าว ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์อีกจำนวนหนึ่งโชว์ผลการศึกษา ซึ่งเชื่อว่าจำนวนอาจจะมีอยู่สูง 8 ตัว เมื่อไม่กี่ปีมานี้
นักวิทยาศาสตร์อีกจำนวนหนึ่ง เชื่อว่า ยังมีแรดชวาเหลืออยู่อีกแน่ๆ สัตว์นิดนี้เล็ดลอดสายตาของคนมานานนับร้อยปีแล้ว และไม่แปลกถ้าหากจะมีอีกจำนวนหนึ่งหลบซ่อนอยู่ตามธรรมชาติของมัน และ มนุษย์ยังไม่สามารถเข้าไปรบกวนพวกมันได้
เมื่อศตวรรษที่แล้วเคยมีแรดชวานับร้อยตัวท่องอยู่ในป่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การไล่เอานอทำให้จำนวนลดลงเรื่อยและเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปในที่สุด จนกระทั่งปี 2541 จึงพบโครงกระดูกแรดตัวหนึ่งในป่าก๊าตเตียน จึงทำให้เกิดการค้นหา หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในอังกฤษรายงานว่า การสำรวจในปี 2550 เคยพบแรดถึง 8 ตัว
เวียดนามประกาศป่าก๊าตเตียนเป็นป่าสงวนแห่งชาติตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 แต่แรดชวาก็ยังคงถูกตามไล่ล่า และตกอยู่ในอันตรายอย่างที่สุด หากหมดไปจากป่าเวียดนามก็จะยังเหลือแรดตระกูลเดียวกันในอินโดนีเซียเพียงแห่งเดียว ซึ่งเชื่อว่าเหลืออยู่ราว 50 ตัว
ต่างๆ จากญาติๆ ของมันบนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้เกาะชวาที่อาจจะมีน้ำหนัก 2 ตันหรือกว่านั้นเมื่อโตเต็มที่ แค่แรดในเวียดนามตัวเล็กกว่ากันมาก และนอก็ยังเล็กกว่าอีกด้วย แต่เนื่องจากอวัยวะชิ้นนี้ของมันเป็นของมีค่าและหายากซึ่งในตลาดจีนซื้อขายกันนอละ 5,000 ดอลลาร์ จึงทำให้แรดในเวียดนามถูกไล่ล่าตลอดมา
4